ชี้การปลดล็อคพรรคการเมือง ต้องรอ คสช.แก้คำสั่ง

กกต. 6 มิ.ย.-ประธาน กกต. ชี้ปัญหาพรรคการเมืองแม้ปลดล็อค ก็ยังประชุมไม่ได้  เหตุไม่มีสาขาพรรค  รอ คสช.แก้คำสั่ง พร้อมร่วมหารือ คสช. หากได้รับเชิญ


นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ  ว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว พรรคการเมืองก็มีหน้าที่จัดหาสมาชิก ทุนประเดิม และทำสาขาพรรค แต่ก็ยังทำไม่ได้ เพราะ คสช.ยังไม่ปลดล็อคคำสั่งที่ 57/2557 และคำสั่งที่ 3/2558 ซึ่ง กกต.ไม่สามารถก้าวล่วงได้ว่าจะมีการปลดล็อคเมื่อไร อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ตนเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายพรรคการเมือง ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาไปที่ คสช.แล้ว เช่น กรณีที่ไม่มีสาขาพรรค ทำให้ไม่สามารถจัดประชุมได้  เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ แต่จะแก้ไขหรือไม่เป็นดุลพินิจของ คสช. 

ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. สนับสนุนให้ใช้มาตรา 44 ให้อำนาจ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งได้หลังกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา นายศุภชัย กล่าวว่า เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้พรรคการเมืองมากที่สุด แต่ กกต.ยังไม่มีความคิดที่จะเสนอให้ คสช.ใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยขณะนี้สำนักงาน กกต.ได้สั่งให้สำนักงาน กกต.จังหวัดทั่วประเทศเตรียมการแบ่งเขตไว้แล้ว แต่ต้องดูจำนวนประชากรที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง และต้องมีการรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ ดังนั้นจึงต้องเตรียมการไว้ก่อน หากทำในระยะกระชั้นชิด ก็อาจจะไม่ทัน


ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า อาจจะมีการหารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้องและพรรคการเมืองเกี่ยวกับการปลดล็อคและการเลือกตั้งช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ นายศุภชัย กล่าวว่า หาก คสช.แจ้งมา กกต.ก็พร้อมในฐานะผู้ปฏิบัติ โดยพยายามที่จะหาแนวทางปฏิบัติให้ทุกพรรคเท่าเทียมกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย