พบข้อพิรุธเอกสารจัดซื้ออาหารกลางวันโรงเรียนบ้านท่าใหม่

สุราษฎร์ธานี 5 มิ.ย.-  ผอ.ป.ป.ช.สุราษฎร์ฯ เผยการลงพื้นที่หาข้อมูลโรงเรียนบ้านท่าใหม่กรณีขนมจีนคลุกน้ำปลา พบเมนูซ้ำมาตั้งแต่ปี 57  และข้อพิรุธในเอกสารจัดซื้อวัตถุดิบอาหารกลางวัน เตรียมสรุปส่ง ป.ป.ช.ภาค 8 ตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง


นายพล ศรัทโธ  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสุราษฎร์  เปิดเผยว่า หลังจากนำคณะกรรมการ ป.ป.ช.เข้าตรวจสอบและใช้อำนาจตรวจยึดเอกสารรายงานจัดซื้อเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า จากการตรวจสอบการจัดซื้อไม่มีใบเสร็จหรือหลักฐานอื่นใดเกี่ยวกับตัวสินค้ามาแสดง มีเพียงการลงบัญชีรายการสินค้าพร้อมราคาของแต่ละวัน ซึ่งถือว่าผิดระเบียบพัสดุของทางราชการ และที่สำคัญเอกสารที่รวบรวมมาตรวจตั้งแต่ปี 57-61 เป็นการลงรายการบัญชีที่ซ้ำ ๆ และไม่มีความแตกต่าง บางรายการมีความเป็นไปได้น้อย เช่นการซื้อก๊าซหุงต้มทุกสัปดาห์

“เอกสารที่ตรวจมีบัญชีรายการอาหารประจำวันของเด็ก ซึ่งโรงเรียนต้องจัดทำเป็นรายอาทิตย์ พบว่าตั้งแต่ปี 2557 ถึงปี 2561 มีรายการจัดทำอาหารจานเดียวทั้งหมด และไม่มีผลไม้ ตามรายการดังนี้ คือวันจันทร์ ข้าวหมูแดงสลับกับข้าวมันไก่ วันอังคาร ผัดหมี่เหลือง วันพุธก๋วยเตี๋ยวน้ำใส วันพฤหัสบดีขนมจีน และวันศุกร์ข้าวผัด ซึ่งเมนูเหล่านี้จะมีการสลับหมุนเวียนกันเป็นรายสัปดาห์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายการอาหารอย่างอื่นเข้ามาเพิ่มเติม”


นายพล กล่าวด้วยว่า จากการสอบถามพยานบุคคล ซึ่งเป็นครู ผู้ทำหน้าที่ตรวจรับพัสดุ จำนวน 2 คน พบว่าตั้งแต่ปี 2557 ยอมรับว่าเอกสารที่จัดทำขึ้นเพียงเพื่อตกแต่งบัญชี และไม่เคยมีการตรวจรับพัสดุตามระเบียบราชการ และข้าราชการทั้ง 2 คน ยังยอมรับกับเจ้าหน้าที่ด้วยว่า ที่ผ่านมามีความอึดอัด เนื่องจากทราบดีว่าเป็นการทำผิดระเบียบราชการ แต่ไม่สามารถโต้แย้งผู้บริหารโรงเรียนได้ 

นายพล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสืบหาข้อเท็จจริง และตรวจสอบพยานเอกสาร พบพิรุธอย่างน้อย 3 ข้อ คือ 1.เอกสารเป็นเท็จ 2.ไม่มีการตรวจรับพัสดุ และ 3. ไม่มีเอกสารตัวตนแสดงตัวตนว่าเป็นผู้ขาย จึงมีความน่าสงสัยอาจจะไม่โปร่งใส หลังจากนี้จะสรุปสำนวนเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ป.ป.ช.ภาค 8 เพื่อขออนุมัติในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง คาดว่าภายในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ จะสามารถเข้าที่ประชุมเพื่อขออนุมัติได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง