ทำเนียบฯ 4 มิ.ย.- นายกฯ ยืนยัน รัฐบาลขับเคลื่อนกลไลบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศ ผ่าน 3 ด้านหลัก ดำเนินการเป็นระบบ ขอให้เน้นทำความเข้าใจประชาชนจัดหาพื้นที่กักเก็บน้ำ ย้ำต้องทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าว ในโอกาสเป็นประธานเปิดการเสวนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (4 มิ.ย.) ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ปรับปรุงกลไกในการบริหารจัดการน้ำ โดยวางกลไกใหม่ในลักษณะ 3 เสาหลัก คือด้านกฎหมาย โดยเฉพาะการตรา พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านองค์กรรับผิดชอบเรื่องน้ำในระดับนานาชาติ ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อกำกับการบริหารจัดการน้ำ ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี และ ด้านแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค ยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต การจัดหารน้ำท่วมและอุทกภัย การจัดการคุณภาพน้ำ การจัดการป่าต้นน้ำและป่าเสื่อมโทรม และยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ ติดตามประเมินผลตามยุทธศาสตร์ทั้งหมด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารน้ำของประเทศ โดยปัจจุบันได้แก้ไขทั้งปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำบาดาล ส่วนเรื่องการสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ในบางพื้นที่ก็ยังติดปัญหาและมีการคัดค้าน ดังนั้น ต้องไปคิดว่า จะทำอย่างไรให้มีพื้นที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในอนาคตได้ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ ในการปฎิรูปประเทศ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้เกิดความชัดเจน ถึงภารกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่
“ปีนี้ถือเป็นปีที่รัฐบาลทำงานไปพร้อมๆ กับการแข่งขันฟุตบอลโลก ขณะนี้ บ้านเราเปรียบเสมือนการเล่นฟุตบอลเป็นทีม ที่ทุกคนถือเป็นโค้ชและผู้เล่น จึงต้องช่วยกันเล่นออกมาให้ดีที่สุด และทำประตูให้ได้ ขณะที่ ประชาชน ถือเป็นคนดู ที่มีความหลากหลายทางความเห็น มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจการดำเนินการต่างๆ และบางกลุ่มตำหนิการทำงานของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ดังนั้น การแก้ไขปัญหาของประเทศจะสำเร็จได้ ทุกคนต้องเดินไปพร้อมๆ กัน ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็เดินต่อไม่ได้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ต้องใช้กฎหมายให้เหมาะสม เช่นเดียวกับรัฐบาลและ คสช. ที่แม้มีอำนาจตามมาตรา 44 ก็ต้องใช้อย่างเหมาะสมเช่นกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว .- สำนักข่าวไทย