fbpx

โพลชี้ครอบครัว-สังคม มีผลทำให้คนติดคุกซ้ำ

กทม.2 มิ.ย.-โพลพบผู้ต้องขังร้อยละ53ที่เคยติดคุกระบุจะไม่กลับไปติดอีกเพราะลำบาก รักครอบครัว ไม่ต้องการยุ่งกับยาเสพติด แต่อีกร้อยละ46 มีโอกาสกลับไป เพราะเจอคนกลุ่มเดิมๆ ที่เสพ ขาย สังคมไม่ให้โอกาส ไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน และสำคัญคือมีคนในครอบครัว ชุมชน เป็นทั้งคนเสพ ครอบครอง ขาย  


นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดผลโพล ผู้ต้องขังคดียาเสพติด คิดอย่างไรต่อการติดคุกซ้ำ   โดยสำรวจจากผู้ต้องขังคดียาเสพติดจำนวน 379 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 พ.ค.–1 มิ.ย.2561ที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ39.4ไม่ได้เรียนหนังสือหรือได้เรียนก็ไม่เกินประถมศึกษา ขณะที่ร้อยละ32.7จบมัธยมศึกษาตอนต้น ,ร้อยละ 26.6 จบมัธยมศึกษาตอนปลายถึงอนุปริญญา มีเพียงร้อยละ1.3 ที่จบปริญญาตรีหรือสูงกว่าในการสำรวจครั้งนี้


ที่น่าเป็นห่วงคือส่วนใหญ่ร้อยละ81.9 เป็นคนวัยทำงานสร้างฐานะคืออายุระหว่าง 25–55 ปี แต่กลับมาอยู่ในคุก เพราะคดียาเสพติด  ขณะที่ร้อยละ 16.0 เป็น เยาวชน อายุระหว่าง 18–24 ปี และร้อยละ 2.1 เป็นคนสูงวัย อายุ 55 ปีขึ้นไป 


ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือส่วนใหญ่ร้อยละ 42.3 เคยติดคุกมาแล้วมีประวัติติดคุกซ้ำ ขณะที่ร้อยละ 57.7 ติดเป็นครั้งแรก และเมื่อถามว่า ถ้าออกจากคุกไปจะมีโอกาสกลับมาติดคุกซ้ำอีกหรือไม่ พบว่าจำนวนมากหรือร้อยละ 46.1 ของคนที่เคยติดคุกซ้ำมาก่อน ระบุมีโอกาสจะกลับมาติดอีก เพราะเจอแต่กลุ่มคนเดิมๆ ที่เสพที่ขาย สังคมไม่ให้โอกาสกลับตัว ทำผิดแล้วผิดเลยไม่ให้โอกาสแก้ไข ไม่มีงานทำไม่มีเงิน งานอย่างอื่นได้เงินน้อยไม่พอใช้และเพราะความจำเป็น ขณะที่ร้อยละ53.9 ของคนเคยติดคุกซ้ำ ระบุไม่กลับมาแล้ว เพราะติดคุกลำบาก รักครอบครัว มีงานที่สุจริตรออยู่ ได้กำลังใจจากคนรอบข้าง ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวยาเสพติดอีก

อย่างไรก็ตาม แม้แต่กลุ่มคนที่เพิ่งติดครั้งแรกจำนวนมากหรือร้อยละ 31.9 ระบุมีโอกาสจะติดซ้ำเช่นกัน นอกจากนี้กลุ่มเยาวชนคือกลุ่มที่ระบุมีโอกาสจะกลับมาติดคุกซ้ำมากที่สุด คือร้อยละ 45.2 ในขณะที่คนวัยทำงานสร้างฐานะร้อยละ 34.3 และคนสูงวัยร้อยละ 25.0 ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ เครือข่ายบุคคลรอบข้างใกล้ตัวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก่อนมาติดคุก โดยพบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.9 ระบุมี คนรู้จักทั่วไป เป็นทั้งคนเสพ คนครอบครอง และคนขาย นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.9 ระบุ คนพักอาศัยใกล้บ้านในชุมชนเป็นทั้งคน เสพ คนครอบครอง และคนขาย ยิ่งไปกว่านั้น ร้อยละ 14.3 ระบุมีคนในครอบครัว เป็นทั้งคนเสพ คนครอบครอง และ คนขาย ตามลำดับ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

ร้อนทะลุ 42 องศาฯ จนท.ดับไฟป่า ฮีทสโตรก 3 ราย

อากาศร้อนทะลุ 42 องศาฯ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เข้าดับไฟป่า เกิดฮีทสโตรก หัวใจหยุดเต้น 3 ราย ต้องทำ CPR ก่อนหามลงเขาสูงชันกว่า 4 กม. ขึ้นรถส่งโรงพยาบาล