กรุงเทพฯ 31 พ.ค.- ตำรวจระยองเสนอศาลอนุมัติหมายจับ มือยิงกลุ่มนักเที่ยในฟลิคผับ แล้ว ส่วนจะมีตำรวจยศ ร.ต.อ. ร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่อยุ่ระหว่างสืบสวน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่่อมวลชนนำเสนอข่าว มีผู้ร้องเรียนครอบครัวผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต แต่คดีไม่คืบหน้าและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะผู้ก่อเหตุเป็นนักการเมืองท้องถิ่นกับตำรวจ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 61 เวลาประมาณ 01.20 น. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคน เหตุเกิดบริเวณ ห้องน้ำชาย ภายในสถานบริการฟลิคผับ ถ.ราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสถานที่เกิดเหตุ
จากการสืบสวนเบื้องต้น ได้ความว่าคืนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 01.00 น. คู่กรณีได้มาเที่ยวสถานบริการผับที่เกิดเหตุ เกิดมีมีปากเสียงและทะเลาะวิวาทกัน และใช้อาวุธปืนยิง ภายหลังเกิดเหตุ นายปรภัค สุจริตชัยกุล นายเหมราช เสาวรส และนายอภิรัตน์ รัตนสุภา ได้ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.ระยอง โดยนายปรภัค ฯ มีบาดแผลถูกกระสุนปืนยิงที่บริเวณหน้าท้อง ทนผิดบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา นายเหมราชฯ และนายอภิรัตน์ฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส พนักงานสอบสวน พร้อมด้วยแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ นายปรภัคฯ ไว้แล้ว และร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจสถานที่เกิดเหตุและเก็บพยานหลักฐานเพื่อทำการตรวจพิสูจน์ พร้อมสอบปากคำนายเหมราชฯ ผู้เสียหาย และพยานที่เห็นเหตุการณ์ไว้แล้ว
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยในวันนี้(31 พ.ค. 61) พนักงานสอบสวนจะไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดระยอง เพื่ออนุมัติหมายจับนายพิเชฐ ฯ คู่กรณี ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย , พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” สำหรับประเด็นที่อ้างว่า มีตำรวจ ยศ ร.ต.อ. ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ด้วยนั้น ในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งยังไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันได้ว่าตำรวจที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ใคร เป็นผู้กระทำ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดี โดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเสียหายแก่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเกี่ยวข้องหรือร่วมกระทำความผิดในครั้งนี้ ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งวินัยและอาญา เพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้หากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดเสียเอง.-สำนักข่าวไทย
