คุณตาวัย 71 ขอโทษ หลังโซเชียลรุมด่า เหตุขับกระบะย้อนศร

ปราจีนบุรี 30 พ.ค.-หลังถูกกระแสโซเชียลรุมด่าถึงการขับรถไร้จิตสำนึกและไม่เคารพกฎจราจร ย้อนศรจนเกือบชนประสานงากับรถที่วิ่งสวนทาง สุดท้ายคนขับรถ คุณตาวัย 71 เข้าพบพนักงานสอบสวนยอมรับผิดและขอโทษสังคม



หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กนำภาพเหตุการณ์รถยนต์กระบะอีซูสุสีขาว หมายเลขทะเบียน ศม.  6653 กรุงเทพฯ ขับย้อนศรมาตามถนนสาย สุวรรณศร สาย 33 หน้าหมู่บ้านก้องตะวันใกล้ แยกสามทหารกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 29 พ.ค.61 จนเกือบชนกับรถเก๋งมาสด้า สีขาว หมายเลยขทะเบียน กค. 808 ปราจีนบุรี ที่นางสาวปวริศา  ลิพวงษาทอง ที่ขับมากับเพื่อน ซึ่งขับมาตามปกติ จนต้องหักหลบจนเกือบพลิกคว่ำได้รับความเสียหายบางส่วน ตัวรถไปฟาดกับขอบถนนจนกันชนแตก


ล่าสุดหลังกระแสโลกโซเชียลรุมประณามผู้ขับขี่รถยนต์กระบะและมีการแชร์ต่อๆ กัน ทำให้นายสมจิตร์ วาจาตรง อายุ  71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 15 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ผู้ขับขี่รถกระบะในวันเกิดเหตุ  มาพบ ร.ต.อ.สุรชัย คำพลงาม ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่ทำลงไปเพราะฤทธิ์ยารักษาโรค ทั้งความดัน เบาหวานเกิดตาลายจนมีอาการเบลอทำให้ขับรถผิดเลน เพราะคิดว่าเป็นเส้นทางของตนเอง

ภายหลังนายนายสมจิตร์ วาจาตรง เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานไปยัง นางสาวปวริศา ลิพวงษาทอง เพื่อพบและเจรจาเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย นางสาวปวริศา เรียกค่าเสียหายและค่าเสียโอกาสในการทำงานธุรกิจส่วนตัว 50,000 บาท แต่นายสมจิตร์ ขอต่อลองลงมาเหลือ 40,000 บาท เพราะไม่มีเงินพอตามที่เรียกมา เนื่องจากอายุมากและไม่มีอาชีพอะไร ขณะที่นางสาวปวริศา  บอกว่า ถ้าเป็นคนขับจริงและไม่ได้ออกมารับแทนใครก็จะลดให้ตามที่ขอแบบลูกผู้ชายและเป็นคนโต หลังการเจรจาเป็นที่พอใจ พนักงานสอบสวนให้ทั้งสองฝ่ายลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนนายสมจิตร์ จะต้องเสียค่าปรับตาม พ.ร.บ.จราจร เพราะกระทำผิดขับรถย้อนศร ซึ่งนายสมจิตร์ ยินดีเสีย


หลังการเจรจายินยอมกันแล้ว นายสมจิตร์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนครอบครัวนอนไม่หลับจึงปรึกษากับภรรยาและลูกๆ บอกว่าต้องรีบไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยอมรับผิด จึงตัดสินใจเข้ามาพบในวันนี้ พร้อมกับกล่าวขอโทษสังคมที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว