นักเตะ “ช้างศึก” รายงานตัวก่อนเตรียมลงอุ่นเครื่องกับจีน

กรุงเทพ 28 พ.ค.-นักเตะ “ช้างศึก” ก่อนเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมลงอุ่นเครื่องกับจีน


ที่ห้องประชุมชั้น 1 ภายในสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นักเตะทีมชาติไทย ได้เดินทางมารายงานตัว และรับโอวาทจาก พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก่อนเดินทางเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อม ที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม-5 มิถุนายน 2561 เพื่อเตรียมลงแข่งขันฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องระดับเอ แมตช์ พบกับทีมชาติจีน ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน


โดยการรายงานตัวมี มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย พร้อมด้วยสตาฟฟ์โค้ช และนักเตะ “ช้างศึก” ทั้ง 21 คน นำโดย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูกัปตันทีม, พรรษา เหมวิบูลย์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุมัญญา ปุริสาย, สารัช อยู่เย็น และ ชาริล ชัปปุยส์ รวมไปถึง 2 นักเตะที่เพิ่งถูกเรียกตัวมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ครั้งแรก คือ ศศลักษณ์ ไหประโคน แบ็คจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ นพพล พลคำ กองกลางจากโปลิศ เทโร เอฟซี เดินทางมารายงานตัวครั้งนี้

ส่วน 5 นักเตะที่ไม่ได้เดินทางมารายงานตัว ได้แก่ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, นูรูล ศรียานเก็ม, จักรพันธ์ แก้วพรม, ธีรศิลป์ แดงดา และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะตามไปสมทบกับเพื่อนร่วมทีมในช่วงเย็นต่อไป


ซึ่ง พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวให้โอวาทนักเตะ “ช้างศึก” ว่า “วันนี้ผมขอแสดงความยินดี ชื่นชม และเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ทุกคน โดยสมาคมฯ พร้อมให้การสนับสนุนทุกด้านที่นักเตะต้องการ เพื่อให้การเก็บตัวฝึกซ้อมเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งสิ่งที่ทางสมาคมฯ หวังไว้ลึกๆ ก็คือ การได้เห็นฟุตบอลทีมชาติไทย ก้าวไปรอบสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย”

“ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ผมอยากให้แฟนบอลชาวไทยเข้ามาเชียร์ทีมชาติไทยให้เต็มสนามราชมังคลากีฬาสถาน เหมือนการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพที่ผ่านมา ผมอยากให้น้องๆ มีความตั้งใจ มุ่งมานะ มีแรงผลักดันในการสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาให้ดีที่สุด ในหน้าที่อันทรงเกียรติ ในการเป็นตัวแทนทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดนี้”

ส่วน มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย ได้กล่าวว่า “ขอสวัสดีและต้อนรับนักเตะทุกคนเข้าสู้แคมป์เก็บตัวทีมชาติไทย หลายคนเคยเจอกันมาแล้ว และตอนนี้ทุกคนคือผู้ถูกเลือกในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติจีน เกมนี้สำคัญ หากดูอันดับในฟีฟ่าแรงกิ้งจะเห็นว่าจีนมีอันดับที่สูงกว่าเรา อยากให้ทุกคนโฟกัสและแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าเราสามารถเอาชนะทีมที่มีอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งสูงกว่าได้”

“ทีมชาติจีนมีการลงทุนมหาศาลในการทำทีมฟุตบอล เราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเราสามารถสู้กับทีมระดับนี้ได้ และในช่วงนี้เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้จากฟุตบอลสมัยใหม่ เพื่อพัฒนาตัวเองในอนาคต แม้เราจะมีโปรแกรมลงแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ และซูซูกิ คัพ แต่ผมอยากให้ทุกคนโฟกัสเกมกับทีมชาติจีนก่อน”

“สำหรับฟุตบอลโลกหนนี้ นี่เป็นโอกาสที่จะได้ศึกษาฟุตบอลสมัยใหม่ เพื่อประโยชน์ต่อวงการฟุตบอลไทยอย่างที่นายกฯพูดว่า เราได้เตรียมตัวไว้สำหรับศึกเอเชียน คัพ ก็จริง แต่ต้องโฟกัสกับจีนก่อน ส่วนการตัดตัวนั้นเราสามารถส่งชื่อนักเตะลงสนามกับจีนได้ 23 คน แต่เราจะไม่ตัดตัวใครออกจากทีม ผมแค่จะดูการฝึกซ้อมและดูความฟิตของนักเตะว่าใครจะเป็น 23 คนที่จะมีชื่อลงเล่นกับจีน ส่วนคนที่ไม่มีชื่อก็จะฝึกซ้อมกับทีมต่อไป เพื่อเรียนรู้ระบบการเล่นของทีม”

สำหรับทีมชาติไทย จะเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน 2561 และจะลงแข่งขันฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องระดับเอ แมตช์ พบกับทีมชาติจีน ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.30 น. ส่วนบัตรเข้าชมเกมการแข่งขันสามารถซื้อได้ที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]