ป.ป.ช.ยังไม่บรรจุสำนวนคดีเงินทอนวัด

สำนักงาน ป.ป.ช. 28 พ.ค. – ประธาน ป.ป.ช. เผย ยังไม่บรรจุสำนวนคดีเงินทอนวัด เข้าที่ประชุมสัปดาห์นี้ หากเป็นเรื่องเร่งด่วนเป็นวาระจรได้ ระบุ เตรียมจัดกลุ่มข้าราชการเสี่ยงทุจริต ให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อผู้บังคับบัญชา


พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า สัปดาห์นี้ที่ประชุม ป.ป.ช. ยังไม่มีการบรรจุวาระเร่งด่วน การพิจารณาคดีทุจริตเงินทอนวัด ในสำนวนคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ส่งสำนวนที่พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมเสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิด พระเถระชั้นผู้ใหญ่ เนื่องจากสำนักไต่สวนคดียังไม่สรุปสำนวนคดี ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนก็สามารถบรรจุเป็นวาระจรได้ ทั้งนี้ หากป.ป.ช.พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็อาจส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อได้

ส่วนความคืบหน้าในการเตรียมกฎระเบียบรองรับกฎหมาย ป.ป.ช.ใหม่นั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมร่างอนุบัญญัติเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ที่มีการกำหนดกรอบเวลาในการพิจารณาสำนวนคดี นอกจากนี้ยังเตรียมพร้อมหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) ตามที่ครม.อนุมัติ ให้มีการบรรจุหลักสูตรนี้เป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงมัธยม อีกทั้งยังมีหลักสูตรการจัดอบรมตำรวจและทหาร ในโรงเรียนนายร้อยทั้งสี่เหล่า รวมถึงหลักสูตรพิเศษของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเป็นการป้องปรามการทุจริตด้วย


ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อรับมือกับการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของข้าราชการทั่วประเทศจำนวนกว่า 3 ล้านคน ที่กฎหมายใหม่บังคับให้ข้าราชการทุกคนต้องยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้บังคับบัญชา โดยอยู่ระหว่างการเรียงลำดับความสำคัญของกลุ่มราชการที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินก่อน ซึ่งเบื้องต้นอาจจะเป็นกลุ่มผู้ที่บังคับใช้กฎหมาย กลุ่มที่มีอิทธิพล มีความเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของความโลภและการทุจริต เช่น ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร เป็นต้น จึงต้องคิดระบบบิ๊กดาต้า เพื่อรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ โดยอาจให้ข้าราชการทุกคนยื่นผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ซึ่งจะง่ายต่อการเปรียบเทียบความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

สอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธทุกข้อหา

ดีเอสไอสอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อหา อ้างเป็นผู้แทนรัฐวิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทย ถูกส่งมาบริหารบริษัทในไทยเท่านั้น

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม