นนทบุรี 27 ก.ย. – กฟผ.ยืนยันน้ำในเขื่อนหลักมีมากกว่าปีก่อนหน้านี้ แต่ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกมาก
นายอรรถพร วัฒนวิสุทธิ์ รองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ระดับน้ำในเขื่อนหลักของ กฟผ.ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกมาก โดยปัญหาน้ำท่วมในภาคกลาง เกิดจากน้ำหลากหลังฝนตกเป็นปริมาณสูง
นายอรรถพร กล่าวว่า ปัจจุบันเขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำราวร้อยละ 43 เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำร้อยละ73 จะเห็นได้ว่า มีพื้นที่อ่างเพียงพอในการรองรับปริมาณน้ำอีกมาก โดยการปล่อยน้ำจากเขื่อน จะดำเนินการตามคำสั่งของอนุกรรมวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำที่มีอธิบดีกรมชลประทานเป็นประธาน ซึ่งกรณีน้ำหลากในพื้นที่ภาคกลางนั้น เกิดจากปริมาณน้ำฝนและน้ำในทุ่งเป็นหลัก
นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้ช่วยผู้ว่าการ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ กฟผ. กล่าวว่า ฝนที่ตกจากพายุลูกล่าสุดที่เข้าในไทยทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากฝนที่ตกอยู่ในช่วงกึ่งกลางเหนือและใต้เขื่อน ก็ทำให้ส่วนหนึ่งเกิดน้ำหลากในพื้นที่ใต้เขื่อน ซึ่งปริมาณน้ำในเขื่อนปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมา หลัง 3 ปีที่แล้วเกิดปัญหาน้ำแล้งต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำต้นทุนที่จะใช้ในหน้าแล้งปีหน้าจะมีมากน้อยขนาดไหน ก็คงจะมีความชัดเจนหลังสิ้นสุดฤดูฝน ไปแล้ว หรือประมาณเดือน พ.ย.-ธ.ค.
ทั้งนี้ อนุกรรมการฯวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ ยังคงมีคำสั่งระบายน้ำในเขื่อนใหญ่ แต่มีปริมาณต่ำ เพื่อดูแลการอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเขื่อน โดยปัจจุบัน เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ระบายน้ำ วันละ 1ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำในอ่าง 5,805 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 43 มีปริมาณน้ำใช้งานได้ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ,เขื่อนสิริกิติ์จ.อุตรดิตถ์ ระบายน้ำ วันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำในอ่าง 7,023 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 73 มีปริมาณน้ำใช้งานได้ 4,173 ล้านลูกบาศก์เมตร,เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ระบายน้ำ วันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำในอ่าง 12,200 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 69 มีปริมาณน้ำใช้งานได้ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร,เขื่อนวชิราลงกรณ์จ.กาญจนบุรี ระบายน้ำ วันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำในอ่าง 5,057 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 57 มีปริมาณน้ำใช้งานได้ 2,045 ล้านลูกบาศก์เมตร -สำนักข่าวไทย