กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการใช้ในช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น
หลังอภิปรายและนำเสนอความเห็นส่วนตน ในคำร้องที่ประธาน สนช. ส่งให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 (1) ประกอบมาตรา 263 ว่า มาตรา 91-96 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเลือก ส.ว. มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ ซึ่งอยู่ในบทเฉพาะกาลของร่างกฎหมายลูก ส.ว. ที่กำหนดให้ใช้กับการคัดเลือก ส.ว. ในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี คือ ให้ ส.ว. มาจากกลุ่มสังคม 10 กลุ่ม จากเดิมที่ กรธ. กำหนด 20 กลุ่ม ให้สมัครด้วยตนเองกับสมัครด้วยการแนะนำจากองค์กร และวิธีการเลือกในระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ ให้ผู้สมัครแต่ละประเภทแยกกันเลือกเป็นบัญชี 2 ประเภท ที่อาจไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
คณะตุลาการฯ ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นบทเฉพาะกาลใช้บังคับในวาระเริ่มแรกเท่านั้น ทั้งยังเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 จึงไม่มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนขั้นตอนจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะส่งเรื่องให้ประธาน สนช. ส่งต่อให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ภายใน 20 วัน
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังได้พิจารณากรณีที่ประธาน สนช. ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 35 (4) และ (5) เรื่องการตัดสิทธิข้าราชการการเมือง หากไม่ไปเลือกตั้ง มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 95 วรรค 3 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 92 วรรค 1 ที่ให้บุคคลอื่นหรือกรรมการประจำหน่วยลงคะแนนแทนผู้พิการ มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 85 หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย และนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้
ส่วนคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 140 และ 141 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 25, 26, 27 และ 45 หรือไม่นั้น ล่าสุดหัวหน้า คสช. ส่งความเห็นเป็นหนังสือและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งก่อนหน้านี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ส่งความเห็นและข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาแล้ว ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาความเห็น และมีคำสั่งรับรวมไว้ในสำนวน โดยนัดอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยต่อ ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เช่นกัน. – สำนักข่าวไทย