กรุงเทพฯ 23 พ.ค.- ตั้งคณะทำงานปราบ “บริษัทปล่อยช่วงเช่าสัญญาณ VOIP ผิดกฎหมาย “ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดีเดย์จับกุมสัปดาห์หน้า ท่ีผ่านมามูลค่าความเสียหายถึง 225,572,288.65 บาท
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมนายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร ผอ.สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ร่วมกันแถลงข่าว การตั้งคณะทำงานร่วมกับ กสทช. เพื่อตรวจสอบบริษัทที่ให้การเช่าสัญญาณ VOIP หรือ การใช้บริการทางโทรศัพท์ผ่านระบบ อินเตอร์เน็ต โดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ชุมสายโทรศัพท์ ผิดกฎหมาย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกับทาง กสทช. ได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันเพื่อตรวจสอบบริษัทที่ให้เช่าช่วงต่อ VOIP อย่างผิดกฎหมาย โดยจะมี พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคราม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน และ สน.ดอนเมืองเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับ บริษัท ที่ฝ่าฝืนนำเข้าสัญญาณเสียง ผ่านระบบอินเตอร์เนต จากต่างประเทศ โดยผิดกฎหมาย คือไม่มีโครงข่ายให้บริการเสียงข้อมูลพหุสื่อ แก่บุคคลทั่วไปทั่วประเทศ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่งผลให้กลุ่มมิจฉาชีพ มักใช้บริการบริษัทรับเช่าช่วงต่อ โทรศัพท์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ไปหลอกลวงผู้เสียหายทั้งการโอนเงินและการข่มขู่วางระเบิดสนามบินดอนเมือง
โดยวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้แจ้งดำเนินคดีกับ 3 บริษัท คือบริษัท วัน ทรู ออล จำกัด บริษัทแพรคติเคิล เน็ตเวิร์ค จำกัด และบริษัท ไลฟ์ ไทม์ เทคโนโลยี จำกัด ที่ฝ่าฝืนนำเข้าสัญญาณเสียง ผ่านระบบอินเตอร์เนต จากต่างประเทศ โดยผิดกฎหมาย คือไม่มีโครงข่ายให้บริการเสียงข้อมูลพหุสื่อ แก่บุคคลทั่วไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะ บริษัท วัน ทรู ออล จำกัด พบกระทำความผิดมาแล้ว 3 ครั้ง ในข้อหา ประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่รับอนุญาต ตามมาตรา 67 ของพ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม 2544 และภายในสัปดาห์หน้าจะเริ่มขยายผลลงตรวจบริษัทที่รับช่วงต่อจาก 5 บริษัท คือ ทีโอที แคท ทรู เอไอเอส ดีแทค ซึ่งจะจัดการให้เด็ดขาด หากพบมีการเช่าช่วงสัญญาณ แล้วนำไปทำผิดกฎหมาย และจากข้อมูลการร้องเรียนของประชาชนพบ ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 ถึง 22 พฤษภาคม มีความเสียหายแล้ว 436 คดี มูลค่า 225,572,288.65 บาท
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ยอมรับสำหรับการติดตามผู้ที่กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวที่ผ่านมานั้น สามารถติดตามตัวได้ยากแต่เมื่อมีการตั้งคณะทำงานดังกล่าวก็จะสามารถติดตามตัวได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการติดตามผู้กระทำความผิด เกี่ยวกับการละเมิลลิขสิทธิ์ต่าง ๆ อาทิ การนำเข้าสื่อวิทยุโทรทัศน์ การจัดระเบียบซิม การบล็อคเบอร์โทรศัพท์
พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า สำหรับคณะทำงานจะแบ่งเป็น 3 ส่วน 1.คดีปกติ 2.คดีเกี่ยวกับความมั่นคง 3.คดีอาชญากรรมพิเศษ อาทิ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โรแมนซ์สแกม หลังจากนี้จะตั้งคณะอนุกรรมการไว้ทำงาน และจะมีการประสานงานร่วมกับบริษัทหลักทั้ง 5 บริษัท ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายพิชัย กล่าวว่า ระบบ VOIP เป็นการใช้บริการผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่ง 3 บริษัทนี้ ไม่มีการขออนุญาตนำเข้าทราฟิกเสียง ซึ่งตามกฎหมายจะต้องมีการขออนุญาตผ่าน 5 บริษัทตัวแทนใหญ่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาข้อบังคับให้มีการเพิ่มโทษ จากบริษัทที่มีการกระทำผิดซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย