ทำเนียบ 18 พ.ค.- รองนายกรัฐมนตรี เผยหารืออย่างไม่เป็นทางการกับอดีตเลขาฯ ก.พ. 5-6 คน ถึงการเทียบเคียงตำแหน่งข้าราชการทหารกับพลเรือน ต้องใช้ตำแหน่งไม่ใช้ยศ ดู งบประมาณ งาน และเวลาการครองตำแหน่ง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.การเทียบตำแหน่งของข้าราชการทหารกับข้าราชการพลเรือน ที่มีสาระสำคัญกำหนดให้ข้าราชการทหารระดับ พลตรี มีสถานะเทียบเคียงกับตำแหน่งอธิบดี เพื่อให้มีคุณสมบัติดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระได้ตามรัฐธรรมนูญ จะทำให้อนาคตองค์กรอิสระจะมีแต่ทหารหรือไม่ ว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหา ถ้าคิดเช่นนั้นก็อย่าเลือกทหารเข้ามา ปัญหาคือทำอย่างไรให้ทุกคนมีสิทธิและโอกาส เท่านั้น
“ถ้าพูดกันด้วยความเป็นธรรม มันก็คงต้องพิจารณา แต่ถ้าหากว่าไปจนถึงขนาดว่า พลตรี เท่ากับ อธิบดีนั้น อันนี้เลยความเป็นธรรมไปแล้ว เมื่อครู่ได้หารือไม่เป็นทางการในบรรดา เลขาฯ ก.พ. 5-6 คน ว่าปกติต้องใช้ตำแหน่ง ไม่ได้ใช้ยศ อย่างที่ได้พูดมาตลอด อย่างตำแหน่งเจ้ากรม มันอาจจะพอไปกันได้กับอธิบดี ต่างกันที่ไม่ได้เรียกอธิบดีเท่านั้น แต่ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาในกรมก็มีมาก อดีต เลขาฯก.พ. 3-4 คน ให้หลักว่า จะต้องดูที่เงินหรืองบประมาณมากขนาดไหน จะต้องดูที่งาน คือภาระมากขนาดไหน จะต้องดูที่ระยะเวลาในการครองตำแหน่งมากขนาดไหน อย่าเอายศเข้ามาเกี่ยว” นายวิษณุ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่กฎหมายเขียนว่า อธิบดีหรือเทียบเท่า แสดงให้เห็นเจตนาว่าต้องการคนที่เป็นผู้บังคับบัญชา หรือ หัวหน้าหน่วยงาน ซึ่งในทางข้าราชการพลเรือนถือว่าเข้าใจง่าย แต่ในทางทหาร เป็นเรื่องยาก เพราะไม่เคยมีการเทียบเคียงเช่นนี้ ทั้งที่บางคนเป็นแม่ทัพ ใหญ่กว่าผู้ว่าราชการจังหวัด บางคนมีผู้ใต้บังคับ บัญชา จำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณาเทียบเคียงกับระบบในปัจจุบัน แต่ไม่ใช่การนำมาเทียบว่า พลตรีเท่ากับอะไร
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีความหวังดี ก็เตรียมไปร่างกฎหมายดังกล่าวมาหนึ่งฉบับ แต่รัฐบาลเองก็เตรียมจะทำอีกหนึ่งฉบับ แต่ของรัฐบาลจะไม่ใช้หลักว่า พลตรีเทียบเท่ากับตำแหน่งใด.-สำนักข่าวไทย