อยุธยา 17 พ.ค.-ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ไม่รื้อสุสานวัดพนัญเชิงวรวิหาร และสั่งให้มูลนิธิวัดพนัญเชิง (เซียง เต็ก ตึ้ง) ออกจากพื้นที่ หลังมีปัญหาพิพาทนานหลายปี
ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยานัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ระหว่างวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องมูลนิธิวัดพนัญเชิง (เซียง เต็ก ตึ้ง) จำเลย กรณีเมื่อปี 2556 วัดพนัญเชิงฯ ขึ้นป้ายประกาศว่า วัดมีโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสุสานสาธารณะ อยู่ฝั่งตรงข้ามวัด เนื้อที่ทั้งหมด 20 ไร่ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อสาธารณชน จึงห้ามบุคคลใดเข้าไปทำประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น บุตรหลานที่ฝังศพบรรพชนไว้กว่า 1,600 หลุม ให้ขุดศพย้ายภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2557 แต่หาข้อสรุปไม่ได้ จึงมีการนำคดีฟ้องร้องต่อศาลเมื่อปี 2557
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยทั้งสองออกจากที่ดินพิพาท และให้รื้อถอนอาคารสำนักงานของจำเลย บ้านพักคนงาน และบริวาร ออกจากที่ดินพิพาท, ห้ามจำเลยไม่ให้รบกวนสิทธิครอบครองที่ดินของโจทก์, ศาลาบำเพ็ญกุศล สร้างก่อนจัดตั้งมูลนิธิ จึงไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างของจำเลย ไม่ต้องรื้อ, ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เดือนละ 400 บาท จนกว่าจะรื้อสำนักงานของจำเลย และบ้านพักคนงานออกไปจากที่ดินโจทก์, ฮวงซุ้ยและศพเป็นของทายาทลูกหลาน ซึ่งเข้าฝังศพโดยเปิดเผย สุจริตตามเจตนา ให้ทำสุสานสาธารณะของโจทก์ ไม่ต้องรื้อถอนออกจากที่ดินพิพาท และห้ามโจทก์ดำเนินโครงการที่มีวัตถุประสงค์ขัดกับวัตถุประสงค์ของสุสานสาธารณกุศล
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังมีกลุ่มของนายสมาน ศิริพฤกษ์พงษ์ ซึ่งเป็นลูกหลานที่ทำการร้องสอดเข้าไปอีก 102 รายชื่อ ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ร้องสอดทั้ง 102 รายชื่อ นั้นไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอเป็นคู่ความ หน้าที่เป็นของจำเลยที่ 1 คือมูลนิธิเท่านั้น ซึ่งมูลนิธิและทายาททั้งหมดจะได้หารือในการเข้าดำเนินการดูแลต่อไป.-สำนักข่าวไทย