กทม.17 พ.ค.- ตำรวจยันพบเอกสารโรงงานใน ซ.อรุณอัมรินทร์ 53 รับผลิตสินค้าให้ “เมจิกสกิน” กรณีเจ้าของให้ข่าวปฏิเสธถือเป็นสิทธิ เบื้องต้นเรียกรับทราบข้อกล่าวหาวันนี้ที่กองปราบ
การนำกำลังเข้าตรวจค้นโรงงานผลิตครีม บริเวณซอยอรุณอัมรินทร์ 53 นานกว่า 2 ชั่วโมง ของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. มีนายทนงค์ วงค์สมบูรณ์ กรรมการบริหาร บ.ฮานิว โคเรีย จำกัด ร่วมสังเกตการณ์พร้อมเปิดเผยกับสื่อว่า ทางบริษัทรับผลิตเนื้อครีมและขายส่ง ส่วนผสมรวมถึงสารต่างๆ ถูกต้องตามกฎหมาย เปิดมาประมาณ 7 ปี แจ้งจดทะเบียนเมื่อปี 2556 และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ มีเจ้าหน้าที่ อย.เข้ามาตรวจก็ไม่พบสารต้องห้าม ตามที่มีข้อมูลว่า บริษัทเมจิสกิน ใช้ที่ตั้งของโรงงานเป็นสถานที่ผลิตสินค้า ยอมรับว่า มีการติดต่อขอซื้อเนื้อครีมทารักแร้ของโรงงาน เมื่อช่วงเดือนมกราคม จำนวน 3 ตัน ราคากิโลกรัมละ 150 บาท เมื่อสั่งไปทดลองจำหน่ายแล้วได้ผลดีจึงทำสัญญาว่าจ้างเป็นสถานที่ผลิตสินค้าให้ตรีชฎา ซึ่งทางโรงงานได้ตรวจสอบเลข อย. แล้วพบว่าไม่ถูกต้องจึงส่งกลับไปยัง บ.เมจิสกิน ทำให้ไม่มีการผลิตสินค้าให้ บ.เมจิกสกิน ก่อนที่ภายหลัง บ.เมจิสกิน จะนำแบรนด์ตัวใหม่มายื่นขอให้ทาง บ.ผลิตให้ ขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นเครือข่าย บ.เมจิกสกิน และว่าโรงงานเปิดมาก่อนจะมีแบรนด์ดังกล่าวอีกด้วย
ด้าน น.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ กรรมการ บ.ฮานิว โคเรีย อีกคน ชี้แจงข้อเท็จจริงสารประกอบครีมยี่ห้อคาโอะ โดยยืนยันว่า ในผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมเยื่อไผ่และเห็ดญี่ปุ่น ตามที่มีการโฆษณา ส่วนกรณีตำรวจพบข้อมูลบัญชีหนี้สินแล้วมีชื่อ บ.เมจิสกิน เป็นลูกหนี้ 27 ล้านบาท เรื่องดังกล่าวขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน พร้อมปฏิเสธผลิตครีมให้ บ.เมจิกสกิน เนื่องจากมีคนกลางติดต่อให้ผลิตในนามบุคคล
ขณะที่ พล.ต.อ.วิระชัย ยืนยันว่า เอกสารที่ได้ภายในบริษัทชี้ให้เห็นว่า บ.ฮานิวโคเรีย รับผลิตสินค้าให้ บ.เมจิสกินจริง ตามเอกสารที่ตรวจสอบพบ ส่วนเจ้าของบริษัทจะปฏิเสธอย่างไร เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตำรวจะนำเครื่องคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดรวมถึงจะเชิญผู้บริหารบริษัทไปสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นว่า โฆษณาเกินจริงที่กองปรามปราม ส่วนจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ รอการตรวจสอบอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


