fbpx

รอง ผบ.ตร.นำทีมยึดรถหรูป้ายแดงเครือข่ายเมจิกสกิน

กรุงเทพฯ 17 พ.ค.- ตำรวจและ อย.เข้ายึดรถพอร์ช ป้ายแดง หลังมีคนนำมาจอดทิ้งไว้ในสถานบริการ ย่านอรุณอัมรินทร์ เชื่อกลัวความผิด เพราะเป็นรถ 1 ใน 30 คันของนางวรรณภา พวงสน เจ้าของเมจิกสกิน 


พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เข้ายึดรถหรู ยี่ห้อพอร์ช ป้ายแดง  เลข ทะเบียน น – 8886 กทม.  ที่จอดไว้ในลานจอดรถสถานบันเทิง อาบ อบ นวด แห่งหนึ่ง ย่านถนนอรุณอัมรินทร์  หลังตำรวจ สน.บางยี่ขัน ได้รับแจ้งจากผู้ดูแลว่า ไม่ทราบมีบุคคลใดนำรถมาจอดทิ้งไว้ในสถานบริการ

พลตำรวจเอกวิระชัย ระบุ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบรถยนต์ต้องสงสัยจอดทิ้งไว้ตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา และยังสวมป้ายทะเบียนปลอม เนื่องจากพบเอกสารสำเนาคู่มือรถเป็นรถยนต์ทะเบียนขาว หมายเลข 5 กฉ-6095 กทม. ระบุชื่อผู้ครอบครอง คือนายอภิวัส พงศ์พัฒนะนุกุล ซึ่งรถคันนี้เป็น 1ใน 30 คัน ของนางวรรณภา และ นายกรณ์ พวงสน เจ้าของบริษัทเมจิกสกิน ที่เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยข้อมูลเมื่อวานที่ผ่านมาก่อนมีผู้นำรถมาจอดทิ้งไว้อาจกลัวความผิด นอกจากนี้ยังพบสมุดบัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท  ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ครีม เซรั่ม ต่างๆ  แผนการตลาด ตัวอย่างสินค้า และของใช้ส่วนตัว เชื่อว่าผู้ที่มาจอดทิ้งไว้เพื่อหาทางออกถ่ายเททรัพย์สินหวั่นถูกตรวจสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เตรียมขายทอดตลาดเพื่อคืนเงินให้ผู้เสียหายต่อไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาผู้นำรถมาจอดและเร่งขยายผลดำเนินคดีต่อไป 


ส่วนบุคคลที่เสียชีวิตจากการกินผลิตภัณฑ์ลีนที่ จ. กาญจนบุรี  เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลและขอฝากเตือนบุคคลที่ซื้อไปบริโภคเนื่องจากเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก เพราะมีสารไซบูทามีนผสม

ซึ่งหลังจากนี้จะเข้าตรวจค้นโรงงานที่รับผลิตให้กับแบรนด์สินค้าตรีชฎา เพื่อตรวจสอบสารประกอบ และจากการตรวจสอบพบข้างกล่องมีทุนจดทะเบียน1ล้านบาท เมื่อ5ปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

  


         

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย