ภูมิภาค 14 พ.ค. – เมื่อคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงเช้ามืด เกิดอุบัติเหตุใหญ่หลายจุด โดยที่พัทยา เกิดเหตุรถเก๋งเสียหลักชนกำแพง เสียชีวิต 4 ศพ ส่วนที่นครปฐม สองหนุ่มสาวซิ่งเก๋ง 180 กม./ชม. ก่อนชนเสาไฟฟ้ากลางถนน ไฟลุกท่วมคลอกผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ระดมกำลังฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้บนรถเก๋ง โตโยต้า แคมรี่ สีขาว หลังประสบเหตุชนเกาะกลางถนนเพชรเกษม ช่วงทางเข้าวัดลาดหญ้าแพรก ตำบลสระกระเทียม อำเภอเมืองนครปฐม ใช้เวลา 20 นาทีจึงคุมเพลิงได้สำเร็จ ต่อมาพบศพนายชินโชติ หวายนำ อายุ 30 ปี และ น.ส.จิราพร โต้งฟ้า อายุ 20 ปี เสียชีวิตภายในรถ สภาพศพไหม้เกรียม เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเมมโมรี่การ์ดจากกล้องหน้ารถ พบว่ารถคันดังกล่าวมาจากราชบุรี แต่ขับมาด้วยความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นได้มีเสียงของผู้หญิงร้องและรถก็พุ่งปีนเกาะกลางก่อนชนเสาไฟเบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ
จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์รถเก๋งสีน้ำเงินเสียยหลักพุ่งชนป้ายรถเมล์ ก่อนเหินพุ่งชนกำแพงอย่างรุนแรง เหตุเกิดบนถนนสายหนึ่ง ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คนติดอยู่ภายในรถ ก่อนลำเลียงร่างมาปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่ไม่ทันการเสียชีวิตทันที 4 ศพ ส่วนอีก 2 คนถูกลำเลียงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้เคียง สอบสวนเบื้องต้น ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ทราบแต่เพียงว่านายอำพล ท่าวานร อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถ ได้มีปากเสียงกับแฟนสาว ก่อนเดินทางไปรับน้องและเครือญาติทั้งหมดไปเที่ยวพัทยา ก่อนประสบอุบัติเหตุ
ยังอยู่ที่ชลบุรี แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนสาย 331สัตหีบ-นครราชสีมา อำเภอบ้านบึง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งใช้เครื่องตัดถ่างนำผู้เสียชีวิตออกจากรถ หลังเกิดเหตุรถกระบะบรรทุกกุ้งสดชนประสานงากับรถกระบะอีกคันที่วิ่งสวนทางมา มีผู้เสียชีวิต 2 ศพทราบชื่อ นายสรายุทธ สมนึก อายุ 45 ปี และ น.ส.ธนัฐฐา สมนึก อายุ 19 ปี บุตรสาว ส่วนผู้บาดเจ็บถูกกระแทกที่ศีรษะเป็นคนขับรถบรรทุกกุ้ง สอบสวนทราบว่ารถกระบะบรรทุกกุ้งเสียหลัก ก่อนพุ่งข้ามเลนไปชนกับคู่กรณี ตำรวจจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป
อีกเหตุการณ์ เกิดขึ้นบนถนนเทพรัตน กิโลเมตรที่ 47 ขาเข้ากรุงเทพฯ เขตอำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำตัวนายสมพงษ์ ด่านพงษ์ อายุ 56 ปี โชเฟอร์ขับรถสิบล้อ ซึ่งได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถออกมาปฐมพยาบาล หลังนายสมพงษ์หลับใน ก่อนพุ่งชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อที่จอดอยู่ข้างทาง เคราะห์ดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้เสียชีวิต .- สำนักข่าวไทย