พพ. 28 ก.ย. – พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวเปิดโครงการสนับสนุนการลงทุนการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ในโรงพยาบาลของรัฐ ว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จัดสรรงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 750 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลของรัฐ 71 แห่ง สำหรับใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับอาคารโรงพยาบาล คาดสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 92 ล้านหน่วย และพลังงานความร้อน 24,838 GJ รวมทั้งสิ้น 8.46 พันตันน้ำมันดิบเทียบเท่า (ktoe) คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้กว่า 420 ล้านบาท ระยะเวลาคืนทุนเฉลี่ย 2.4 ปี และไม่เกิน 7 ปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 55,235 ตันต่อปี
ทั้งนี้ พพ.เปิดรับสมัครโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีมีโรงพยาบาลรัฐสมัครเข้าร่วมโครงการ 138 แห่ง จากจำนวนโรงพยาบาลของรัฐที่ให้บริการประชาชนทั่วประเทศ 1,027 แห่งทั่วประเทศ วงเงินลงทุนปรับปรุงรวม 2,047 ล้านบาท มูลค่าผลประหยัดพลังงาน 640 ล้านบาทต่อปี และขอรับการสนับสนุนสูงถึง 1,448 ล้านบาท สูงกว่างบประมาณของโครงการที่ตั้งไว้ 700 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม พพ.ได้พิจารณาเงินกองทุนสนับสนุนโครงการดังกล่าวให้โรงพยาบาลของรัฐ 71 แห่ง คิดเป็นอัตราร้อยละ 70 ของเงินลงทุน รวมทั้งสนับสนุนค่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบและควบคุมงานให้โรงพยาบาลในอัตราร้อยละ 5 ของเงินลงทุน เพื่อช่วยเหลือด้านเทคนิควิศวกรรมของโรงพยาบาล ขณะที่โรงพยาบาลสมทบงบประมาณร้อยละ 30 วงเงิน 308 ล้านบาท เบื้องต้นครอบคลุมโรงพยาบาลทุกขนาด เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลประจำจังหวัดและอำเภอ โดยมีโรงพยาบาลใช้เงินลงทุนปรับปรุงการปรับเปลี่ยนเครื่องทำน้ำเย็นประสิทธิภาพสูงสัดส่วนสูงสุดร้อยละ 36 ของเงินลงทุนทั้งหมด รองลงมา คือ เปลี่ยนไปใช้หลอดไฟแอลอีดีร้อยละ 27 เปลี่ยนหม้อไอน้ำประสิทธิภาพสูงร้อยละ 10 และเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศเป็นแบบอินเวอร์เตอร์ร้อยละ 9 กำหนดระยะเวลาจัดซื้อจัดจ้างพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ให้เสร็จภายใน 9 เดือนนับจากวันที่ลงนามในสัญญารับการสนับสนุน.-สำนักข่าวไทย