วิษณุชี้นำศิลปวัฒนธรรรมต่อยอดพัฒนายุค 4.0

กรุงเทพฯ 9 พ.ค.- “วิษณุ”  ชี้นำมิติศิลปวัฒนธรรมมาเป็นต้นทุนสังคมต่อยอดในการพัฒนายุค 4.0 ด้านท่องเที่ยว พาณิชย์ สื่อสาร  รับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี  


วันนี้  (9พ.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เมื่อเวลา 10.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ครั้งที่ 2 พร้อมกล่าวบรรยายพิเศษ หัวข้อ “การจัดการศึกษาและงานวิจัยด้านศิลปวัฒนธรรมในศตวรรษที่ 21 ” ตอนหนึ่งว่า การที่รัฐบาลต้องกำหนดยุทธศาสตร์ชาติเพื่อตอบคำถามว่าประเทศจะเดินหน้าไปทางไหน ซึ่งการจัดทำยุทธศาสตร์มีคณะกรรมการเป็นผู้กำหนด และสามารถนำยุทธศาสตร์ไปตอบกับผู้นำต่างประเทศที่เดินทางมา ซึ่งมักจะถูกถามถึงแนวทางของประเทศในด้านต่างๆ เช่น คมนาคม ศิลปวัฒนธรรม กฎหมาย และระเบียบต่าง ๆ  ซึ่งเป็นการถามถึงอนาคตเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะคบ ค้าขาย หรือลงทุนกับประเทศเราหรือไม่ เขาจึงอยากรู้แนวทาง 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยปกติเราก็จะตอบถึงเรื่องอนาคตในช่วง 2-3 ปี แต่เมื่อถูกถามว่าหากรัฐบาลพ้นไปแล้ว เขามาลงทุนจะเป็นอย่างไร อนาคตจะเกิดความไว้วางใจได้หรือไม่ ดังนั้นเราจึงต้องมียุทธศาตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเมื่อมียุทธศาสตร์ชาติแล้วเมื่อไปรวมกับยุคดิจิตอล 4.0 การกำหนดให้เป็น 4.0 ก็เพื่อง่ายในการเปรียบเทียบจากอดีตที่เราจะระบุว่าอยู่ในระดับด้อยพัฒนา กำลังพัฒนา และพัฒนาแล้ว เมื่อใช้คำว่า 4.0 ก็จะเป็นระดับต่างๆ กัน และเป็นสิ่งที่ใช้กันทั่วโลก เป็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเทคโนโลยี 


นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องศิลปวัฒนธรรม ต้องคำนึงว่าเราอยู่ในศตวรรษที่ 21 จะสามารถต่อยอดหรือประยุกต์ได้อย่างไร การเรียนเพื่อศิลปะไม่พอ แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ ซึ่งจะประกอบไปด้วยประโยชน์เฉพาะหน้าและประโยชน์ในภายภาคหน้าคือการเอาไปใช้ เช่น การท่องเที่ยว พาณิชย์ และการสื่อสาร   ในศตวรรษที่ 21  เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เราจะไม่คิดตามไม่ได้ ต้องปรับตัว ยุคประยุคและต่อยอดสิ่งที่มีอยู่  ใช้มิติทางศิลปวัฒนธรรมเป็นทุนสังคมเพื่อขับเคลื่อนในการพัฒนา ต้องคำนึงถึงประโยชน์ในภายภาคหน้า คำนึงถึงการต่อยอดและผลข้างเคียง 

หลังจากนั้นนายวิษณุ ได้มอบรางวัลให้แก่ผู้นำเสนอบทความ ที่ได้รับคะแนนสูงสุดในระดับดีเด่น 3 รางวัล.-สำนักข่าวไทย        


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]