เริ่มแล้ว “เทศกาลกีฬากรุงเทพฯ” ตลอด ต.ค.65

กรุงเทพฯ 1 ต.ค. – เริ่มแล้ว “เทศกาลกีฬากรุงเทพฯ” ส่งเสริมกีฬา ศิลปวัฒนธรรม เอกลักษณ์ และมรดกไทย ตลอดเดือนตุลาคม


(30 ก.ย.65) ณ ศูนย์การเรียนรู้มวยไทย (เรือนเขียวสะอาด) โรงเรียนวัดธาตุทอง เขตวัฒนา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว “เทศกาลกีฬากรุงเทพฯ” เทศกาลกีฬาของกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2565 ซึ่งจะจัดขึ้นตลอดเดือนตุลาคมนี้ เพื่อส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ไทย อีกทั้งปลูกฝังให้ประชาชนได้แสดงความรัก ความภาคภูมิใจในภูมิปัญญามรดกไทย ที่จะต้องร่วมกันอนุรักษ์สืบสานให้คงอยู่คู่คนไทย และประเทศไทยตราบนานเท่านาน

“กรุงเทพมหานครจะจัดเทศกาลเป็นประจำทุกเดือน หมุนเวียนกันไปตลอด 12 เดือน ซึ่งเป็นการนำสิ่งดีๆ ที่เรามีอยู่แล้วนำมาจัดเป็นกิจกรรม โดยเชื่อมโยงระหว่างกีฬา​ วัฒนธรรม และสุขภาพ และจะจัดเป็นประจำแบบนี้ทุกปี เพื่อเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชน ให้มาใช้พื้นที่สาธารณะในกรุงเทพฯ ที่มีสถานที่ดีๆ อยู่หลายจุด ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมมือกันและขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกิจกรรมเทศกาลกีฬากรุงเทพฯ ในครั้งนี้” ผู้ว่าฯ​ ชัชชาติ​ กล่าวเชิญชวน


ด้านรองผู้ว่าฯ ศานนท์​ กล่าวว่า​ เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ดึงกีฬาไทยในอดีตกลับมาจัดเทศกาลกัน ซึ่งมีจุดประสงค์เป็นการนำกีฬาให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่และคนทุกคน โดยชูอัตลักษณ์ความเป็นไทยขึ้นมา ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ​ ภาคเอกชนต่างๆ​ โดยใช้เอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่าน​ “กีฬาไทย” ให้กลับมาอีกครั้ง​ เช่น​ การเล่นตะกร้อ​ การเล่นว่าวที่สนามหลวง​ การเล่นหมากฮอส​ หมากรุก​ มวยไทย​ วิ่งเปี้ยว​ ชักเย่อ​ วิ่ง​ Bangkok Virtual Run เป็นต้น​ ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดและการร่วมกิจกรรมได้ทางช่องทางสื่อสารของกรุงเทพมหานคร​ และเฟซบุ๊กแฟนเพจ​ “กรุงเทพมหานคร”

การแถลงข่าวการจัด “เทศกาลกีฬากรุงเทพฯ” ประจำปี 2565 ในวันนี้ มีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการแถลงข่าว ร่วมด้วยนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสามารถ มะลูลีม นายกสมาคมมวยไทยนานาชาติ ดร.ปริยากร รัตนสุบรรณ นายกสมาคมกีฬา กีฬาไทยแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคเอกชน ได้ร่วมกันจัดเทศกาลกีฬากรุงเทพฯ ประจำปี 2565 โดยจะมีกิจกรรมตลอดเดือนตุลาคม ประกอบด้วย สัปดาห์ที่ 1 กิจกรรม “Bangkok Virtual Run” ระหว่างวันที่ 1-30 ตุลาคม 65 เป็นการวิ่งสะสมกิโลเมตรให้ครบ 100 กิโลฯ ภายในเดือนตุลาคม บนแอปพลิเคชัน Thairun เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับเทศกาล ได้ออกกำลังกาย และได้ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน ชาเลนจ์จะเริ่มในเวลา 00.00 น. ของวันที่ 1 ตุลาคม 65 และจะสิ้นสุดในเวลา 23.59 น. ของวันที่ 30 ตุลาคม 65 ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมสามารถวิ่งที่ไหน เวลาใดก็ได้ โดย Bangkok Virtual Run แบ่งการแจกเหรียญรางวัล ดังนี้ 50 คนแรก ประเภทวิ่งจบไวที่สุด 50 คนแรก ประเภทวิ่งมีวินัย วิ่งครบทุกวัน 50 คนแรก ประเภทวิ่งออนทัวร์ วิ่ง 6 สวนทั่ว กทม. และ 50 คนแรก วิ่งแชร์ภาพ popular vote


ทั้งนี้ ทาง กทม. มีเส้นทางวิ่งในเมืองเก่า 2 เส้นทาง เป็นเส้นทางแนะนำให้ออกมาวิ่งกันในวันหยุด โดยกลุ่มนักวิ่ง City Run ช่วยสำรวจร่วมกับผู้ว่าฯ คือ “เส้นทางวิ่งไหว้พระ 9 วัด” และเส้นทาง “วิ่งเลาะกรุงเก่า” ซึ่งมีการปรับปรุงเส้นทางตามนโยบาย BKK Trail ประชาชนสามารถไปวิ่งตามเส้นทางดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังมีการจัดงานที่สวนรถไฟ เขตจตุจักร ในวันที่ 22 ตุลาคม 65 เพื่อเป็น “จุดแวะพักไ ของ “เหล่านักวิ่ง Virtual Run” โดยชวนคนมาวิ่ง มาฟังเพลง ดูหนัง ในบรรยากาศสบายๆ อีกด้วย

สัปดาห์ที่ 2 กิจกรรม “ว่าวไทย ในกรุงฯ” ระหว่างวันที่ 8-9 ตุลาคม 65 ณ ท้องสนามหลวง พบกับกิจกรรมเปิดเทศกาลกีฬากรุงเทพฯ ประจำปี 2565 โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้เข้าร่วมงานรับชมการแสดง ฟังดนตรี และพบกับศิลปินรับเชิญภายในงาน การประกวดว่าวไทยสวยงาม 50 เขต โดยความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ 50 เขต ทั่วกรุงเทพฯ ส่งเข้าร่วมการประกวด พร้อมชิงถ้วยและเงินรางวัล ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการ “ว่าวไทย สตอรี่” เล่าเรื่องราวของว่าวไทย ผ่านการจัดแสดงว่าวไทยประเภทต่างๆ ผู้เข้าร่วมงานสามารถร่วมกิจกรรม Workshop การทำว่าวไทยตลอดงาน “ลานเล่นว่าวกรุงเทพฯ” การเปิดพื้นที่ท้องสนามหลวงบางส่วนให้ประชาชนได้เข้ามาเล่นว่าวในท้องสนามหลวงอย่างเช่นในอดีต การแข่งขันชักเย่อคู่แห่งศักดิ์ศรี ระหว่างเทศกิจเขตพระนคร และตำรวจ สน.ชนะสงคราม

การแข่งขัน “ชักเย่อ” ชิงแชมป์กรุงเทพมหานคร โดยทีมตัวแทนประชาชนในพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ เข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมชิงถ้วยและเงินรางวัล รวมถึงการฉายหนังกลางแปลง ในวันที่ 8 ตุลาคม 65 ฉายสารคดี “เสด็จแจกรางวัลว่าวกาชาด” และภาพยนตร์เรื่อง ดรีมทีม 9 ตุลาคม 65 ฉายภาพยนตร์เรื่อง Beautiful boxer

สัปดาห์ที่ 3 กิจกรรม “ตะกร้อไทย ใจกลางพระนคร” วันที่ 15-16 ตุลาคม 65 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร พบกับการแข่งขันกีฬา “ตะกร้อข้ามตาข่าย” ชิงแชมป์กรุงเทพมหานคร รายการแข่งขันในรุ่นเยาวชน เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับเยาวชนได้มีพื้นที่ในการเล่นกีฬาและมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมชิงถ้วยและเงินรางวัล การแข่งขันกีฬา “ตะกร้อลอดห่วงไทย” ชิงแชมป์กรุงเทพมหานคร โดยทีมประชาชนในพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้แสดงความสามารถและมีโอกาสได้ร่วมการแข่งขันกีฬา พร้อมชิงถ้วยและเงินรางวัล การแข่งขันเดาะตะกร้อชิงแชมป์กรุงเทพมหานคร เพื่อค้นหาสุดยอดมือเดาะตะกร้อในกรุงเทพฯ (ผู้สนใจสมัครแข่งได้ที่สำนักงานเขต)

นิทรรศการ “ตะกร้อไทย” เล่าเรื่องราวของกีฬาตะกร้อ กิจกรรม Workshop สอนเตะตะกร้อ และร่วมสนุกกับกิจกรรมในบูธกิจกรรม การออกร้านจำหน่ายสินค้าของดี 50 เขต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเผยแพร่อัตลักษณ์ของพื้นที่ การแสดงดนตรีโปงลาง รำวงย้อนยุค และพบกับศิลปินรับเชิญ เพื่อสร้างความสนุกสนาน สร้างความสุขให้กับคนกรุงเทพฯ

สัปดาห์ที่ 4 กิจกรรม “มวยไทย มหานคร” วันที่ 22-23 ตุลาคม 65 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร พบกับการแข่งขันมวยไทยนานาชาติ ในวันที่ 22 ตุลาคม 65 คู่เอกหญิง รุ่งนภา พ. เมืองเพชร ชิงแชมป์ มากาเร็ต วาเน็ก รุ่น 112 ปอนด์, คู่รอง จิตติ คส. เชียงใหม่ พบ เนจิน รร.มวยไทยสิงห์บุรี รุ่น 127 ปอนด์, คู่ค้ำ ดังมิลล์ เพชรหนองกี่ พบ เมจิ ม.ราชภัฏจอมบึง รุ่น 105 ปอนด์

ในวันที่ 23 ตุลาคม 65 คู่เอกหญิง ปรายฟ้า ส.นิตยา ชิงแชมป์ มาลีฮาย เน็ส รุ่น 126 ปอนด์, คู่รอง ร้อยแก้ว ดร.น๊อดมวยไทย พบ เพชรยอดหญิง เพชรหนองกี่ รุ่น 100 ปอนด์, คู่ค้ำ งามตา ลูกคลองตัน พบ กุหลาบขาว รุ่น 100 ปอนด์

นอกจากนี้พบนิทรรศการ “มวยไทย” กิจกรรม Workshop สอนแม่ไม้มวยไทย และร่วมสนุกกับกิจกรรมในบูธกิจกรรม การแข่งขันมวยทะเลและมวยตับจากกีฬาไทยที่ควรค่าแก่อนุรักษ์ โดยมีนักมวยสมัครเล่นเป็นประชาชนในพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ พร้อมชิงถ้วยและเงินรางวัล (สมัครแข่งได้ที่สำนักงานเขต) การประกวดมวยไทยยุทธศิลป์ชิงแชมป์กรุงเทพมหานคร กิจกรรมที่เป็นการประยุกต์ท่าแม่ไม้มวยไทยมาเป็นศิลปะการแสดง พร้อมชิงถ้วยและเงินรางวัล การออกร้านจำหน่ายสินค้าของดี 50 เขต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเผยแพร่อัตลักษณ์ของพื้นที่ การแสดงดนตรีโปงลาง รำวงย้อนยุค และพบกับศิลปินรับเชิญ เพื่อสร้างความสนุกสนาน สร้างความสุขให้กับคนกรุงเทพฯ

สัปดาห์ที่ 5 กิจกรรม “หมากกระดาน สะท้านกรุงฯ” วันที่ 29-30 ตุลาคม 65 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร พบกับการแข่งขันหมากรุกไทยและหมากฮอสของวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ (วินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่สมัครแข่งขันหมากรุกหมากฮอส ได้ที่ 50 สำนักงานเขต)

นิทรรศการ “หมากรุกและหมากฮอสไทย” กิจกรรม Workshop การสอนเทคนิคการเล่นหมากรุกและหมากฮอส การแข่งขันวิ่งเปี้ยวนัดล้างตา ระหว่างเทศกิจเขตพระนคร และตำรวจ สน.ชนะสงคราม การแข่งขันวิ่งเปี้ยวและวิ่งกระสอบชิงแชมป์กรุงเทพมหานคร โดยทีมจากตัวแทนประชาชน 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ พร้อมชิงถ้วยและเงินรางวัล (สมัครแข่งได้ที่สำนักงานเขต) การออกร้านจำหน่ายสินค้าของดี 50 เขต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเผยแพร่อัตลักษณ์ในพื้นที่ การแสดงดนตรี และพบกับศิลปินรับเชิญ เพื่อสร้างความสนุกสนาน สร้างความสุขให้กับคนกรุงเทพฯ การฉายหนังกลางแปลง วันที่ 29 ตุลาคม 65 ฉายภาพยนตร์เรื่อง สตรีเหล็ก วันที่ 30 ตุลาคม 65 ฉายภาพยนตร์เรื่อง แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีนโยบาย 12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจดี สร้างสรรค์ดี ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ต้องการให้คนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวจากจังหวัดอื่น หรือต่างประเทศ มีเทศกาลน่าสนใจตลอดทั้งปีให้เข้าร่วม ส่งเสริมธุรกิจของเมืองและชุมชนได้โอกาสในการกระตุ้นยอดขายจากงานเทศกาล เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ รวมถึงให้เทศกาลเป็นเครื่องมือผลักดันความสร้างสรรค์ การร่วมมือของชุมชน และเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เที่ยวกรุงเทพฯ โดยแต่ละเทศกาลจะดึงอัตลักษณ์และศักยภาพของแต่ละย่านทั่วกรุงเทพฯ มาใช้ ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และสร้างโอกาสในการประกอบธุรกิจใหม่ๆ ให้คนกรุงเทพฯ โดยใช้เทศกาลเป็นเครื่องมือผลักดันความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

เทศกาลที่จัดในปี 2565 มีดังนี้ มกราคม : เทศกาลดนตรีในสวน กิจกรรมบรรเลงเพลงแห่งความสุขในทุกเย็นวันอาทิตย์ ตามสวนสาธารณะทั้งน้อยใหญ่ทั่วกรุง

กุมภาพันธ์ : เทศกาลดอกไม้แห่งความรัก ต่อยอดความสำเร็จของเทศกาลชมทุ่งดอกไม้กรุงเทพมหานคร, มีนาคม : เทศกาลหนังสือกรุงเทพฯ พัฒนาห้องสมุดชุมชน บ้านหนังสือ ห้องสมุดออนไลน์ และ Co-Working Space

เมษายน : เทศกาลอาหารฮาลาล หลังอาทิตย์ลับขอบฟ้า ขยายตลาดอาหารฮาลาลสำหรับชาวมุสลิม สนับสนุนการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจกลางคืน, พฤษภาคม : เทศกาลผลไม้ไทย สร้างช่องทาง ขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการผ่านการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายในกรุงเทพฯ

มิถุนายน : เทศกาลแห่งความภาคภูมิใจของความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) กิจกรรมเพื่อสนับสนุนความเท่าเทียม และยอมรับความหลากหลายทางเพศ, กรกฎาคม : เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ จากกรุงเทพกลางแปลง ผลักดันสู่มหรสพระดับนานาชาติ

สิงหาคม : เทศกาลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ออกแบบเรื่องราวให้เมืองผ่าน Digital Experience Economy, กันยายน : เทศกาลเด็กและเยาวชน เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้เพื่อเด็กและเยาวชนทั้งในและนอกโรงเรียน, ตุลาคม : เทศกาลกีฬากรุงเทพฯ ส่งเสริมด้านกีฬาและนันทนาการ สร้างสุขภาพกายใจที่ดีให้คนกรุงเทพฯ

พฤศจิกายน : เทศกาลศิลปะสร้างสรรค์ ส่งเสริมแนวคิดศิลปะสร้างสรรค์ผ่านแนวร่วมศิลปิน ผลักดันการจัดแสดงงานศิลปะกลางแจ้ง ทุกมุมเมืองเป็นพื้นที่สร้างสรรค์, ธันวาคม : เทศกาลแสงสี สร้างบรรยากาศแห่งความสุข ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเคาท์ดาวน์ที่กรุงเทพฯ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ยกอำนาจให้ทหารตัดสินใจ เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.- “อนุทิน” ยกอำนาจให้ “ทหาร” ตัดสินใจ ‘เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน’ ลั่น ขอหนุนทหารปักธงไทยให้คนไทยชื่นใจ ส่วนรัฐบาลขอเดินหน้าการทูต ยันไม่มีใครล็อบบี้ได้ ส่วนการเจรจาจะทำหลังยุติเหตุก่อกวน จ่อคุมเข้มพื้นที่เพิ่มเติม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการปิดด่านและการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา โดยระบุว่า ได้ทำความเข้าใจกับการทหารแล้ว ว่าเมื่อตนได้เข้ารับตำแหน่งฝ่ายบริหารประเทศเมื่อไหร่ ก็จะให้ทหารได้ตัดสินใจเต็มที่ รัฐบาลที่กำลังเข้ามาจะให้การสนับสนุน เคารพการตัดสินใจของฝ่ายการทหาร ส่วนรัฐบาลจะทำเรื่องการทูต และเงื่อนไขที่ต้องเจรจาต่าง ๆ นายอนุทิน ย้ำว่า ต้องมีความชัดเจนว่าเราไม่ยอมรับเงื่อนไข แต่เขาต้องยอมรับเงื่อนไขเราเท่านั้น จึงจะดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปได้ ตนอยากให้มีความชัดเจนในตรงนี้ เพราะที่ผ่านมามีการคาดคะเนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้นำต่างประเทศโทรมาล็อบบี้ตน “ ผมล็อบบี้ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่มีใครมาล็อบบี้ได้ ผมต้องทำให้กับคนคนไทย ประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีการต่อรองใด ๆ จนกว่าเขาจะรับเงื่อนไขที่เราตั้งไว้”นายอนถทิน กล่าว ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการจัดการของรัฐบาล เนื่องจากยังมีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินวนอยู่รอบภูมะเขือ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องการทหารขอให้ทหารตัดสินใจ อยากปักธงไทยตรงไหน ขอให้ไปปักให้คนไทยได้ชื่นใจ ในที่ที่เป็นของคนไทย […]

แก๊งค้ายาขนไอซ์ 450 กก. ซิ่งรถชนเกาะกลางถนน จ.อุดรธานี

อุดรธานี 21 ก.ย.-แก๊งยาเสพติดซิ่งรถยนต์ชนเกาะกลางถนน ในพื้นที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบถึงกับอึ้ง พบไอซ์ 450 กก. ซุกอยู่ในกระสอบหลังรถ ส่วนคนในรถอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไปได้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อคืนที่ผ่านมา 22.30 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนวงเวียนบ้านเหล่าอุดม ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ที่เกิดเหตุพบรถยนต์อเนกประสงค์ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน และไม่พบตัวคนขับอยู่ในจุดเกิดเหตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจค้นภายในรถ ที่เบาะนั่งด้านหลัง ถึงกับอึ้ง เพราะพบกระสอบ 9 ใบ อัดแน่นอยู่ด้านหลัง ตรวจสอบภายในกระสอบ มีห่อพลาสติกใสและถุงสีฟ้าลายเสือดาวรวม 448 ห่อ น้ำหนักกว่า 448 กิโลกรัม ภายในห่อมีผลึกขาวใส ลักษณะผลึกคล้าย ไอซ์ นอกจากนี้ ยังพบบัตรประชาชน นายสุทธิโชค อายุ 17 ปี ชาว อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ตรวจสอบพบ มีประวัติคดียาเสพติด 3 คดี ส่วนทะเบียนรถ […]

อุดพนังกั้นน้ำสำเร็จ น้ำท่วมหล่มสักเริ่มคลี่คลาย

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย.-น้ำท่วมตัวอำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งย่านการค้า เริ่มลดลงแล้ว หลังเจ้าหน้าที่อุดพนังกั้นน้ำที่พังลงมาได้สำเร็จ และน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลง จุดที่พนังกั้นน้ำริมแม่น้ำป่าสักแตกยาวกว่า 10 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่สามารถปิดพนังกั้นน้ำที่พังลงมาได้แล้ว แม้จะยังไม่ 100% ทำให้ยังมีน้ำรั่วซึมเข้ามาบ้าง แต่ช่วยลดปริมาณน้ำจากแม่น้ำป่าสักที่ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและอาคารร้านค้าหลายร้อยหลังในย่านการค้าของหล่มสักลงได้ ส่งผลให้น้ำที่ท่วมหลายจุดตั้งแต่เมื่อวานลดลง บางจุดเริ่มเห็นผิวถนนแล้ว และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่อง หลังระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านตัวอำเภอหล่มสัก ลดลงเฉลี่ยชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร จนต่ำกว่าพนังที่ทางเทศบาลเสริมขึ้นมาแล้ว แต่ยังมีบ้านเรือนตามชุมชนที่อยู่ริมน้ำใกล้จุดพนังแตก ถูกน้ำท่วมขังอยู่บ้าง ขณะที่ชาวบ้านหลายครอบครัวเร่งนำข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายออกมาล้างทำความสะอาด เร่งล้างคราบโคลนภายในบ้านกันบ้างแล้ว หลังต้องเจอน้ำท่วมหนักถึง 2 รอบ ในช่วง 3 สัปดาห์ และกว่าจะอุดพนังกั้นน้ำที่พังลงมาได้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามตลอดทั้งคืน ระดมกำลังคนและเครื่องจักรหนักเข้ากู้สถานการณ์ อุดรอยรั่วซ่อมพนังกั้นน้ำ ตรงข้ามสวนดงตาล ที่พังลงมายาวกว่า 10 เมตร โดยใช้แบริเออร์ กระสอบทรายบิ๊กแบ็ก วางอุดรอยรั่วได้สำเร็จ แม้ตอนนี้ยังคงมีน้ำรั่วซึมเข้ามาจากจุดพนังแตกอยู่บ้าง แต่หากระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลงอย่างต่อเนื่องแบบนี้ คาดว่าสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักจะลดลงต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้แจงปมกัมพูชาประท้วงไทย ย้ำพื้นที่อยู่ในเขตไทย

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้แจงปมกัมพูชาประท้วงไทย ย้ำพื้นที่อยู่ในเขตไทย ไม่ใช่พื้นที่พิพาท กรณีกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์เมื่อ 20 ก.ย.68 ระบุว่า “กัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงและคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลไทย เกี่ยวกับเจตนาที่จะใช้กฎหมายภายในประเทศของไทยกับพลเมืองกัมพูชาในหมู่บ้านโจกเจย และหมู่บ้านไปรจัน ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยมีรายละเอียดกล่าวหาฝ่ายไทยว่า ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ใช้กฎหมายภายในประเทศกับพลเมืองกัมพูชาในพื้นที่พิพาท โดยการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวของไทยละเมิดพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ (มาตรา 2(3) และ 2(4)) เป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ขัดต่ออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ขอเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรมที่บ่อนทำลายความพยายามลดความตึงเครียด ตามข้อตกลงหยุดยิง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงต่อกรณีนี้ว่า ฝ่ายไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศกับบุคคลที่อยู่ในเขตดินแดนของไทย ซึ่งเป็นหลักการสากลที่ทุกประเทศยอมรับ และขอยืนยันว่า พื้นที่ที่ฝ่ายไทยอาจจำเป็นต้องดำเนินการก่อนนั้น ไม่ได้อยู่ในเขตของพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน แต่อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐ ส่วนเรื่องพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติ ในมาตรา 2(3) ที่ได้ระบุไว้ว่า “รัฐสมาชิกต้องระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยวิธีสันติ เพื่อไม่ให้สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศตกอยู่ในอันตราย” นั้น ในความเป็นจริงกลับพบว่า ฝ่ายกัมพูชามักจะเป็นผู้ละเมิด อย่างกรณีการปลุกปั่น จัดฉาก […]