อัยการเตรียมฟ้องวัฒนา เมืองสุข ทุจริตบ้านเอื้ออาทร

กรุงเทพฯ 8 พ.ค.- อัยการเตรียมฟ้อง “วัฒนา เมืองสุข ทุจริต บ้านเอื้ออาทร เช้า 9 พ.ค. ย้ำไม่เลื่อนนัด เตรียมหลักทรัพย์พร้อมประกันตัว ขณะที่อัยการนัด 19 ผู้ถูกกล่าวหา พบ อัยการ แจ้งวัฒนะ 9 โมงเช้า ก่อนส่งฟ้องศาลฎีกานักการเมือง


นายวัฒนา  เมืองสุข  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีที่อัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริต นัดให้มารับทราบคำสั่งฟ้องและเตรียมนำตัวยื่นฟ้องคดีทุจริตการอนุมัติโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติว่า ในวันที่ 9 พ.ค. เวลา 09.00 น. ตนจะเดินทางไปพบอัยการตามที่นัดไว้ หลังจากนั้นจะพาตัวมายื่นฟ้องที่ศาล ฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งตนเตรียมหลักทรัพย์ไว้รอยื่นประกัน จะไม่เลื่อนอัยการพร้อมจะไปพบตามนัดหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ อัยการนัดให้ผู้ถูกกล่าวหา 19 ราย มาพบที่ห้องประชุม 501 ณ อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. หลังจากนั้นจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหาพร้อมสำนวน เอกสารหลักฐานต่าง ๆ ในคดีที่เริ่มต้นในชั้น คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และรับช่วงต่อมาถึง ป.ป.ช. ไปยื่นฟ้องยังศาลฎีกาฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ในวันเดียวกัน  


ทั้งนี้สำนวนทุจริตการอนุมัติโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาตินั้น เป็นสำนวนคดีสุดท้ายในการตรวจสอบหลายโครงการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้รับสำนวนมาจาก คตส. โดยชุดแรกเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.51 จากนั้นมีหลายส่วนทยอยส่งมา กระทั่ง คตส.ยุติหน้าที่จึงเป็น ป.ป.ช.รับช่วงสำนวนคดีต่อจากข้อกล่าวหาเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการเอกชนให้ได้โควต้าเป็นคู่สัญญาจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทรกับการเคหะแห่งชาติ 7 โครงการ 7,500 ยูนิต มูลค่า 2,500 ล้านบาท และได้ชี้มูลความผิด “นายวัฒนา เมืองสุข” อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ และผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 10 ราย เป็นผู้ถูกกล่าวหา รวมความผิด 3 ข้อหา

1.ฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ซึ่งทรัพย์สินแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000 – 400,000 บาท หรือประหารชีวิต 

2.ฐานเป็นเจ้าพนักงานฯ เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการในตำแหน่งโดยไม่ชอบฯ ตาม 149 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000 – 400,000 บาท หรือประหารชีวิต 


และ 3.ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม 157 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง