สธ.8 พ.ค.-กรมอนามัย เตือน ปชช.ไม่หลงเชื่อโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง แนะวิธีสร้างสุขภาพดี แข็งแรง ไม่พึ่งยา กินอาหารครบ 5 หมู่ ลดหวาน มัน เค็ม เน้นผักผลไม้สด ควบคู่การออกกำลังกาย
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ให้กับประชาชนเป็นตัวช่วยให้ประชาชนรู้เท่าทันสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสาร และสุขภาพตนเองด้วยการกลั่นกรอง ประเมินและตัดสินใจ ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เลือกใช้บริการและผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างเหมาะสม เพราะที่ผ่านมามักพบสารอันตรายจากผลิตภัณฑ์แอบอ้างการเสริมความงาม อาหารเสริม และยาลดความอ้วนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจนอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ประชาชนจึงต้องมีความรู้ เข้าถึงข้อมูลสุขภาพ และบริการสุขภาพจากหลายช่องทาง จนสามารถจัดการสุขภาพด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม โดยไม่หลงเชื่อการโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงตามช่องทางการเผยแพร่ต่างๆ
รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า การลดน้ำหนักเพื่อแก้ปัญหาโรคอ้วนที่ดีที่สุด ควรเน้นวิธีการทางธรรมชาติ คือควบคุมปริมาณและชนิดของอาหารที่กิน โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินควบคู่กับการออกกำลังกายมากกว่าการกินอาหารเสริมหรือยาลดความอ้วน โดยควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่มีความเหมาะสม ไม่เค็มจัด ไม่หวานจัด หรือมันมากจนเกินไป กินข้าวกล้องแทนข้าวขาว เลือกกินเนื้อสัตว์ ไม่ติดมัน เน้นเนื้อปลา เพิ่มผัก เลือกกินผลไม้หวานน้อย และควบคุมการกินอาหารรสหวาน เลือกดื่มนมสูตรพร่องมันเนยหรือขาดมันเนยรสจืด งดการกินจุกกินจิก เลี่ยงอาหารทอด งดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ น้ำอัดลม เครื่องดื่มรสหวาน ซึ่งกระตุ้นความอยากอาหาร กินอาหารให้ห่างจากการนอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
ไม่ควรสั่งอาหารคราวละมากๆ ควรกินช้าๆ เคี้ยวช้าๆให้ละเอียด 1 คำควรเคี้ยว30 ครั้ง การรีบร้อนจะทำให้กินมากเกินเพราะอัตรากลไกส่งสัญญาณความอิ่มระหว่างกระเพาะอาหารและสมองใช้เวลาประมาณ 20 นาที รวมถึงการกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญ หากไม่กินอาหารเช้า และคิดว่าจะช่วยลดความอ้วนได้ถือเป็นความคิดที่ผิด เพราะการไม่กินอาหารเช้าจะกระตุ้นให้ร่างกายเปลี่ยนพลังงานที่สะสมแปลงเป็นไขมันในร่างกายได้ ส่วนอาหารมื้อเย็น ควรกินอย่างพอเหมาะไม่มากเกินไป หรือเลือกกินอาหารที่ให้พลังงานต่ำ โดยใช้วิธีต้ม นึ่ง อบ ปิ้ง ย่าง แทนการทอด
ด้าน พญ.นภาพรรณ วิริยะอุตสาหกุล ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวว่า โดยปกติแล้วใน1วัน ผู้หญิงปกติควรได้รับพลังงาน 1600 กิโลแคลอรี /วัน แต่ผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนักต้องได้รับพลังงานไม่น้อยกว่า1,200 กิโลแคลอรี ผู้ชายปกติควรได้รับพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี/วัน แต่ผู้ชายที่ต้องการลดน้ำหนักควรได้รับพลังงานไม่น้อยกว่า1,600 กิโลแคลอรี ควรลดน้ำหนักลงอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม คือลดพลังงานที่ได้จากอาหารวันละ 500 กิโลแคลอรี สามารถปรับสูตรง่ายๆ ด้วยหลักการ food plate model หรือที่รู้จักกันคือ เมนู 2-1-1
โดยแบ่งส่วนของจานอาหารออกเป็น 4 ส่วน ครึ่งหนึ่งของจานเป็นส่วนของผัก อีก1ใน 4 ของจาน เป็นกลุ่มข้าวแป้ง และอีก1ใน4 ของจานเป็นเนื้อสัตว์ต้องเลือกที่ชนิดไม่ติดหนัง ไม่ติดมัน หรืออาจจะเป็นเนื้อปลาปรุงด้วยการต้ม นึ่ง ย่างและสุดท้ายเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอต้องมีผลไม้อีก 1 จานเล็กร่วมด้วยทุกมื้อ นมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนย รสจืด 1-2 แก้ว ดื่มน้ำเปล่าวันละ 6-8 แก้ว
“การกินอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ควรงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง แต่ต้องกินอาหารให้ครบทุกมื้อ โดยควบคุมปริมาณให้เหมาะสมและออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที รวมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอย่างครบถ้วนเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย” ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าว.-สำนักข่าวไทย