เอกชนเสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจ “นครชัยบุรินทร์”

ราชภัฎบุรีรัมย์ 8 พ.ค. –  ภาคเอกชนเตรียมเสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจอีสานตอนล่าง “นครชัยบุรินทร” ทั้งด้านเกษตร-โครงสร้างพื้นฐาน-การค้าชายแดน-ท่องเที่ยว พร้อมดันบุรีรัมย์ศูนย์กลางการแพทย์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เพื่อรับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชน เพื่อพิจารณาแผนเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ เพื่อรวมแผนทั้ง 4 จังหวัด จึงใช้ชื่อ “นครชัยบุรินทร์”  เพื่อเชื่อมโยงกันทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งการคมนาคม รถไฟทางคู่ แหล่งท่องเที่ยว สินค้าชุมชน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (สศช.) เตรียมเสนอแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครชัยบุรินทร์) ตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (พ.ศ. 2561- 2564) จำนวน 121 โครงการ งบประมาณรวม 20,706  ล้านบาท ประกอบด้วย 1. ด้านการเกษตรและแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 73 โครงการ งบประมาณ 3,392.65 ล้าน บาท อาทิ โครงการแก้มลิงลุ่มน้ำชี เพื่อป้องกันอุทกภัยในจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดใกล้เคียง โครงการยกระดับเมืองนวัตกรรมอาหารภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ Northeastern Food Innopolis 2. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน 21 โครงการ งบประมาณ 11,824.45 ล้านบาท เช่น โครงข่ายคมนาคมทางถนน 14 โครงการ อาทิ งานขยายทางหลวงหมายเลข 2445 ตอน บุรีรัมย์-ประโคนชัย ระหว่าง กม.10+750-กม.41+550 ระยะทาง 29.90 กิโลเมตร จาก 2 ช่อง เป็น 4 ช่องจราจร โครงการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนในกลุ่มจังหวัด โครงการปรับปรุงสนามบินบุรีรัมย์เป็นสนามบินศุลกากร เครื่องบินขนาดใหญ่และนักท่องเที่ยว ก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่

3. ด้านการค้า การลงทุนและการค้าชายแดน 4 โครงการ งบประมาณ 1,370 ล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและจัดแสดงนิทรรศการภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 โครงการก่อสร้างศูนย์รวบรวมตู้คอนเทนเนอร์และเปลี่ยนโหมดขนส่ง Korat ICD : Inland Container Depot 4. ด้านการท่องเที่ยว 5 โครงการ งบประมาณ 496 ล้านบาท อาทิ โครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์เฉลิมพระเกียรติ นครราชสีมา โครงการพัฒนาและฟื้นฟูเหมืองหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างและการท่องเที่ยว 5. ด้านคุณภาพชีวิต 18 โครงการ งบประมาณ 3,622 ล้านบาท เช่น โครงการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โครงการศูนย์ดูแลส่งเสริมและฟื้นฟูสภาพผู้สูงอายุจังหวัดบุรีรัมย์


ส่วนจังหวัดบุรีรัมย์เสนอแผนรองรับการแข่งขันกีฬาระดับโลก การจัดตั้งศูนย์กลางทางการแพทย์ของภาคอีสานใต้ ขยายโรงพยาบาลศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา รวมถึงการเสนอขยายการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยาน และสนามบินบุรีรัมย์ให้เป็นสนามบินนานาชาติ  เพื่อขยายอาคารผู้โดยสาร ขยายลานจอดจาก 80 x 120 เป็น 120 x 140 เมตร เพิ่มทางขับอีก 1 เส้นทาง ปัจจุบันสนามบินบุรีรัมย์มีเที่ยวบินไป-กลับ 6 เที่ยว/วัน   ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเกษตร และอุปโภคบริโภค มีโครงการทำนาแปลงใหญ่ การปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง การทำเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงโครงการลงทุนด้านสาธารณูปโภค ทั้งการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ประปาหมู่บ้าน ประปาท้องถิ่น  เนื่องจากขณะนี้ อ.ประโคนชัย นางรอง ลำปลายมาศ บ้านกรวด ได้พัฒนาตัวของเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว  ตลอดจนเสนอแผนพัฒนาโครงการแก้มลิงที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กในชุมชน 11 อำเภอ การเสนอแนวทางพัฒนาการระบายน้ำในเขตเมืองเพื่อป้องกันน้ำท่วม

ด้านการพัฒนาการค้าชายแดน เพื่อก่อสร้างเส้นทางสำคัญอำเภอประโคนชัย เชื่อมกับอำเภอบ้านกรวดเข้าสู่ช่องสายตะกู โครงการก่อสร้างด่านชายแดนศุลกากร บริเวณด่านชายแดนช่องจอม และการก่อสร้างถนนสายหลักเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 2 เส้นทาง รวมถึงข้อเสนอพัฒนาแหล่งน้ำทางการเกษตร 2 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดตั้งสถานีสูบน้ำที่บริเวณ ตำบลคำหุง อำเภอโนนนารายณ์ เพื่อใช้แก้ปัญหาน้ำท่วม และโครงการสร้างสถานีสูบน้ำและบ่อกักเก็บน้ำ เพื่อใช้ช่วงหน้าแล้ง   การยกระดับ “การจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงวัย” ในโรงพยาบาลนางรอง ให้เป็นศูนย์รวมการบริการทางสุขภาพในอีสานใต้กว่า 19 อำเภอ จัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา และก่อตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ ในส่วนของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ร่วมกับโรงพยาบาลบุรีรัมย์ อีกประเด็นคือการพัฒนาการท่องเที่ยว ห้วยจรเข้มาก และห้วยตลาด รวมถึงการพัฒนาไบก์เลน รอบอ่างห้วยจรเข้มาก และอ่างห้วยตลาด

นอกจากโครงการหลักที่จะขอเพิ่มสถานีจอดรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วง นครราชสีมา-หนองคาย ณ อำเภอบัวใหญ่ นครราชสีมา เพื่อให้มีจุดเชื่อมต่อไปยังจังหวัดชัยภูมิ จ.นครราชสีมา ยังมีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางของการค้าขาย และการพักสินค้า รวมถึงเป็นเมืองศูนย์ประชุม (MICE City) ข้อเสนอที่ จังหวัดเสนอมา จึงประกอบไปด้วย 1. โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่และจัดแสดงนิทรรศการภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ความจุ 15,000 คน มูลค่า 1,200 ล้านบาท 2. โครงการก่อสร้างศูนย์รวมตู้คอนเทนเนอร์และเปลี่ยนโหมดขนส่ง (Korat ICD) แผนแม่บทการพัฒนาเมืองใหม่นครราชสีมา เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค มูลค่าการลงทุน สำหรับการออกแบบ 70 ล้านบาท


3. เร่งดำเนินการระบบขนส่งมวลชนในเขตเมืองโคราช LRT ซึ่งได้ออกแบบไว้แล้ว 4. การพัฒนาเส้นทางเชื่อมจุดขนถ่ายสินค้า (CY) อ.บัวใหญ่-ชัยภูมิ เป็นถนน 4 เลน มูลค่า 1,200 ล้านบาท 5. โครงการผันน้ำด้วยระบบท่อ จากอ่างเก็บน้ำหนองกก ลุ่มน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง แก้ปัญหาภัยแล้งที่ อ.พระทองคำ ระยะทาง 11 กม. ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท สามารถแก้แล้งซ้ำซากในพื้นที่ดังกล่าว และ 6. โครงการโลกของช้าง (Elephant World) โครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์เฉลิมพระเกียรตินครราชสีมา เป็นอุทยานธรณีโลกซึ่งกำลังนำเสนอต่อยูเนสโก เสนอของบไป 80 ล้านบาท รวมเสนอของบประมาณดำเนินการทั้ง 6 โครงการเป็นเงินทั้งสิ้น 2,480 ล้านบาท  สำหรับการเส้นทางเชื่อมต่อจังหวัดต่างๆ เช่น จากจังหวัดชัยภูมิ มายังโรงพยาบาลบัวใหญ่ ในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรองรับรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงในอนาคต รวมไปถึงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมจุดขนถ่ายสินค้า (CY) อ.บัวใหญ่-ชัยภูมิ เป็นถนน 4 เลน มูลค่า 1,200 ล้านบาท ยังมีโครงการแก้มลิงลุ่มน้ำชี เพื่อป้องกันอุทกภัยในจังหวัดชัยภูมิ จากงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท

ด้านกระทรวงพาณิชย์รับฟังความเห็นจากภาครัฐและเอกชนของจังหวัดบุรีรัมย์  เช่น หอการค้าจังหวัด  สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี  เพื่อหาแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะเป็นจังหวัดที่ประสบความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา จึงต้องการพัฒนาสินค้าและสร้างแบรนด์บุรีรัมย์ ด้วยการยกระดับและการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเป็นของฝากของที่ระลึก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ข้าวแปรรูป และผ้าไหม หวังเชื่อมโยงสินค้าชุมชนกับการท่องเที่ยว  นำขึ้นห้างโมเดิร์นเทรด และร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มีอยู่กว่า 40,000 แห่งทั่วประเทศ  รวมทั้งการนำสินค้าไปจำหน่ายบนเว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ขนาดใหญ่ เช่น อาลีบาบา เจดีดอทคอม  หวังนำสินค้าสำคัญเช่น  ข้าว และทุเรียน  และสินค้าแปรรูปเกษตรอื่น  การผลักดันให้จุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสายตะกู  ตำบลจันทบเพชร   อำเภอบ้านกรวด  เป็นด่านถาวรเพื่อส่งเสริมและผลักดันการค้าชายแดนไทยกับกัมพูชาให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะเป็นด่านที่มีโอกาสทางการค้าสูง  โดยเฉพาะการค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภค เนื่องจากมีมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาสูงถึง  125,000 ล้านบาทต่อปี

ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมหนุนการท่องเที่ยวเมืองรองภาคอีสาน เนื่องจากแทบทุกจังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองมีเพียงนครราชสีมาและเขาใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก การประชุม ครม.นอกสถานที่อีสานตอนล่าง จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ครั้งนี้ เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ต้องการส่งเสริม เพราะหลายจังหวัดมีจุดเด่น มีศักยภาพ ไม่ต้องก๊อบปี้จังหวัดอื่น เช่น ถนนคนเดินเซาะกราว มีเอกลักษณ์ทั้งวัฒนธรรมการท่องเที่ยว อาหารอร่อย แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ สนามกีฬารูปแบบใหม่ทันสมัย จึงต้องการเดินหน้าส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองเกือบทั้งหมด เพื่อดึงศักยภาพ จุดเด่นให้เป็นจุดดึงดูดการท่องเที่ยว  จากเดิมมีโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยว 100-200 โครงการต่อปี เพิ่มเป็น 700 โครงการ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองให้เติบโตเหมือนกับต่างประเทศ แม้จะใช้เวลาแต่อีกไม่นานการท่องเที่ยวเมืองรองจะเติบโตขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก ประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดน ไม่เคยจบง่ายบางประเทศใช้เวลาเป็น 100 ปี อย่าไปกังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 […]

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​