เอกชนเสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจ “นครชัยบุรินทร์”

ราชภัฎบุรีรัมย์ 8 พ.ค. –  ภาคเอกชนเตรียมเสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจอีสานตอนล่าง “นครชัยบุรินทร” ทั้งด้านเกษตร-โครงสร้างพื้นฐาน-การค้าชายแดน-ท่องเที่ยว พร้อมดันบุรีรัมย์ศูนย์กลางการแพทย์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เพื่อรับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชน เพื่อพิจารณาแผนเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ เพื่อรวมแผนทั้ง 4 จังหวัด จึงใช้ชื่อ “นครชัยบุรินทร์”  เพื่อเชื่อมโยงกันทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งการคมนาคม รถไฟทางคู่ แหล่งท่องเที่ยว สินค้าชุมชน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (สศช.) เตรียมเสนอแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครชัยบุรินทร์) ตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (พ.ศ. 2561- 2564) จำนวน 121 โครงการ งบประมาณรวม 20,706  ล้านบาท ประกอบด้วย 1. ด้านการเกษตรและแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 73 โครงการ งบประมาณ 3,392.65 ล้าน บาท อาทิ โครงการแก้มลิงลุ่มน้ำชี เพื่อป้องกันอุทกภัยในจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดใกล้เคียง โครงการยกระดับเมืองนวัตกรรมอาหารภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ Northeastern Food Innopolis 2. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน 21 โครงการ งบประมาณ 11,824.45 ล้านบาท เช่น โครงข่ายคมนาคมทางถนน 14 โครงการ อาทิ งานขยายทางหลวงหมายเลข 2445 ตอน บุรีรัมย์-ประโคนชัย ระหว่าง กม.10+750-กม.41+550 ระยะทาง 29.90 กิโลเมตร จาก 2 ช่อง เป็น 4 ช่องจราจร โครงการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนในกลุ่มจังหวัด โครงการปรับปรุงสนามบินบุรีรัมย์เป็นสนามบินศุลกากร เครื่องบินขนาดใหญ่และนักท่องเที่ยว ก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่

3. ด้านการค้า การลงทุนและการค้าชายแดน 4 โครงการ งบประมาณ 1,370 ล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและจัดแสดงนิทรรศการภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 โครงการก่อสร้างศูนย์รวบรวมตู้คอนเทนเนอร์และเปลี่ยนโหมดขนส่ง Korat ICD : Inland Container Depot 4. ด้านการท่องเที่ยว 5 โครงการ งบประมาณ 496 ล้านบาท อาทิ โครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์เฉลิมพระเกียรติ นครราชสีมา โครงการพัฒนาและฟื้นฟูเหมืองหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างและการท่องเที่ยว 5. ด้านคุณภาพชีวิต 18 โครงการ งบประมาณ 3,622 ล้านบาท เช่น โครงการจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โครงการศูนย์ดูแลส่งเสริมและฟื้นฟูสภาพผู้สูงอายุจังหวัดบุรีรัมย์


ส่วนจังหวัดบุรีรัมย์เสนอแผนรองรับการแข่งขันกีฬาระดับโลก การจัดตั้งศูนย์กลางทางการแพทย์ของภาคอีสานใต้ ขยายโรงพยาบาลศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา รวมถึงการเสนอขยายการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยาน และสนามบินบุรีรัมย์ให้เป็นสนามบินนานาชาติ  เพื่อขยายอาคารผู้โดยสาร ขยายลานจอดจาก 80 x 120 เป็น 120 x 140 เมตร เพิ่มทางขับอีก 1 เส้นทาง ปัจจุบันสนามบินบุรีรัมย์มีเที่ยวบินไป-กลับ 6 เที่ยว/วัน   ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการเกษตร และอุปโภคบริโภค มีโครงการทำนาแปลงใหญ่ การปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง การทำเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงโครงการลงทุนด้านสาธารณูปโภค ทั้งการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ประปาหมู่บ้าน ประปาท้องถิ่น  เนื่องจากขณะนี้ อ.ประโคนชัย นางรอง ลำปลายมาศ บ้านกรวด ได้พัฒนาตัวของเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว  ตลอดจนเสนอแผนพัฒนาโครงการแก้มลิงที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กในชุมชน 11 อำเภอ การเสนอแนวทางพัฒนาการระบายน้ำในเขตเมืองเพื่อป้องกันน้ำท่วม

ด้านการพัฒนาการค้าชายแดน เพื่อก่อสร้างเส้นทางสำคัญอำเภอประโคนชัย เชื่อมกับอำเภอบ้านกรวดเข้าสู่ช่องสายตะกู โครงการก่อสร้างด่านชายแดนศุลกากร บริเวณด่านชายแดนช่องจอม และการก่อสร้างถนนสายหลักเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 2 เส้นทาง รวมถึงข้อเสนอพัฒนาแหล่งน้ำทางการเกษตร 2 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดตั้งสถานีสูบน้ำที่บริเวณ ตำบลคำหุง อำเภอโนนนารายณ์ เพื่อใช้แก้ปัญหาน้ำท่วม และโครงการสร้างสถานีสูบน้ำและบ่อกักเก็บน้ำ เพื่อใช้ช่วงหน้าแล้ง   การยกระดับ “การจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงวัย” ในโรงพยาบาลนางรอง ให้เป็นศูนย์รวมการบริการทางสุขภาพในอีสานใต้กว่า 19 อำเภอ จัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา และก่อตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ ในส่วนของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ร่วมกับโรงพยาบาลบุรีรัมย์ อีกประเด็นคือการพัฒนาการท่องเที่ยว ห้วยจรเข้มาก และห้วยตลาด รวมถึงการพัฒนาไบก์เลน รอบอ่างห้วยจรเข้มาก และอ่างห้วยตลาด

นอกจากโครงการหลักที่จะขอเพิ่มสถานีจอดรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วง นครราชสีมา-หนองคาย ณ อำเภอบัวใหญ่ นครราชสีมา เพื่อให้มีจุดเชื่อมต่อไปยังจังหวัดชัยภูมิ จ.นครราชสีมา ยังมีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางของการค้าขาย และการพักสินค้า รวมถึงเป็นเมืองศูนย์ประชุม (MICE City) ข้อเสนอที่ จังหวัดเสนอมา จึงประกอบไปด้วย 1. โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่และจัดแสดงนิทรรศการภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ความจุ 15,000 คน มูลค่า 1,200 ล้านบาท 2. โครงการก่อสร้างศูนย์รวมตู้คอนเทนเนอร์และเปลี่ยนโหมดขนส่ง (Korat ICD) แผนแม่บทการพัฒนาเมืองใหม่นครราชสีมา เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค มูลค่าการลงทุน สำหรับการออกแบบ 70 ล้านบาท


3. เร่งดำเนินการระบบขนส่งมวลชนในเขตเมืองโคราช LRT ซึ่งได้ออกแบบไว้แล้ว 4. การพัฒนาเส้นทางเชื่อมจุดขนถ่ายสินค้า (CY) อ.บัวใหญ่-ชัยภูมิ เป็นถนน 4 เลน มูลค่า 1,200 ล้านบาท 5. โครงการผันน้ำด้วยระบบท่อ จากอ่างเก็บน้ำหนองกก ลุ่มน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง แก้ปัญหาภัยแล้งที่ อ.พระทองคำ ระยะทาง 11 กม. ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท สามารถแก้แล้งซ้ำซากในพื้นที่ดังกล่าว และ 6. โครงการโลกของช้าง (Elephant World) โครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์เฉลิมพระเกียรตินครราชสีมา เป็นอุทยานธรณีโลกซึ่งกำลังนำเสนอต่อยูเนสโก เสนอของบไป 80 ล้านบาท รวมเสนอของบประมาณดำเนินการทั้ง 6 โครงการเป็นเงินทั้งสิ้น 2,480 ล้านบาท  สำหรับการเส้นทางเชื่อมต่อจังหวัดต่างๆ เช่น จากจังหวัดชัยภูมิ มายังโรงพยาบาลบัวใหญ่ ในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรองรับรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูงในอนาคต รวมไปถึงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมจุดขนถ่ายสินค้า (CY) อ.บัวใหญ่-ชัยภูมิ เป็นถนน 4 เลน มูลค่า 1,200 ล้านบาท ยังมีโครงการแก้มลิงลุ่มน้ำชี เพื่อป้องกันอุทกภัยในจังหวัดชัยภูมิ จากงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท

ด้านกระทรวงพาณิชย์รับฟังความเห็นจากภาครัฐและเอกชนของจังหวัดบุรีรัมย์  เช่น หอการค้าจังหวัด  สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี  เพื่อหาแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะเป็นจังหวัดที่ประสบความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา จึงต้องการพัฒนาสินค้าและสร้างแบรนด์บุรีรัมย์ ด้วยการยกระดับและการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเป็นของฝากของที่ระลึก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ข้าวแปรรูป และผ้าไหม หวังเชื่อมโยงสินค้าชุมชนกับการท่องเที่ยว  นำขึ้นห้างโมเดิร์นเทรด และร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มีอยู่กว่า 40,000 แห่งทั่วประเทศ  รวมทั้งการนำสินค้าไปจำหน่ายบนเว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ขนาดใหญ่ เช่น อาลีบาบา เจดีดอทคอม  หวังนำสินค้าสำคัญเช่น  ข้าว และทุเรียน  และสินค้าแปรรูปเกษตรอื่น  การผลักดันให้จุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสายตะกู  ตำบลจันทบเพชร   อำเภอบ้านกรวด  เป็นด่านถาวรเพื่อส่งเสริมและผลักดันการค้าชายแดนไทยกับกัมพูชาให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะเป็นด่านที่มีโอกาสทางการค้าสูง  โดยเฉพาะการค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภค เนื่องจากมีมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาสูงถึง  125,000 ล้านบาทต่อปี

ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมหนุนการท่องเที่ยวเมืองรองภาคอีสาน เนื่องจากแทบทุกจังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองมีเพียงนครราชสีมาและเขาใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก การประชุม ครม.นอกสถานที่อีสานตอนล่าง จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ครั้งนี้ เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ต้องการส่งเสริม เพราะหลายจังหวัดมีจุดเด่น มีศักยภาพ ไม่ต้องก๊อบปี้จังหวัดอื่น เช่น ถนนคนเดินเซาะกราว มีเอกลักษณ์ทั้งวัฒนธรรมการท่องเที่ยว อาหารอร่อย แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ สนามกีฬารูปแบบใหม่ทันสมัย จึงต้องการเดินหน้าส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรองเกือบทั้งหมด เพื่อดึงศักยภาพ จุดเด่นให้เป็นจุดดึงดูดการท่องเที่ยว  จากเดิมมีโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยว 100-200 โครงการต่อปี เพิ่มเป็น 700 โครงการ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองให้เติบโตเหมือนกับต่างประเทศ แม้จะใช้เวลาแต่อีกไม่นานการท่องเที่ยวเมืองรองจะเติบโตขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กทม. 15 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณมณฑลกว่างซี ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย