ทำเนียบฯ 3 พ.ค. – เจบิคหารือรองนายกรัฐมนตรี พร้อมหนุนเอกชนสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน หวังดึงความเชื่อมั่นนักลงทุน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การหารือกับนายทะดะชิ มะเอะดะ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) เพื่อติดตามความคืบหน้าในการผลักดันโครงการต่าง ๆ ในระเบียงเศรษฐกิจภาตะวันออก (อีอีซี) โดยเฉพาะการสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทางเจบิคพร้อมสนับสนุนทางการเงินดอกเบี้ยต่ำให้กับเอกชนไทย ญี่ปุ่น และจีน ยุโรป หลังจากกฎมหมายอีอีซีผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว ขณะนี้รอประกาศบังคับใช้ในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นร่างทีโออาร์จะประกาศออกมาให้เอกชนได้รับทราบ เพื่อตัดสินใจเสนอโครงการลงทุน ยอมรับว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงต้องประเมินผลตอบแทนทางเศรษฐกิจระยะยาว หากจะหวังผลกำไรระยะสั้นต้องประเมินให้ครอบคลุม
นอกจากนี้ รัฐบาลยังต้องการให้ญี่ปุ่นผลักดันโครงการอินโด-แปซิฟิก เพื่อเชื่อมเส้นทางคมนาคมจากอินเดีย-เมียนมาร์ ไทย-เวียดนาม-ญี่ปุ่น-ออสเตรเลีย จึงต้องผลักดันโครงการให้เห็นเป็นรูปธรรม ขณะที่ไทยอยู่จุดศูนย์กลางโครงการดังกล่าว จึงต้องการให้ญี่ปุ่นออกแรงผลักดันมากขึ้น กรรมการผู้อำนวยการ เจบิคได้แจ้งว่าญี่ปุ่นพร้อมส่งผู้แทนระดับสูงเข้าร่วมประชุมสุดยอด ACMECS โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 15-16 มิถุนายน 2561 เพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ CLMVT และเป็นประโยชน์ต่ออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพราะการประชุมดังกล่าวจะมีการประกาศแผนแม่บท ACMECS หารือเกี่ยวกับ 3 เสาหลัก ได้แก่ 1.การเสริมสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อในอนุภูมิภาค 2.การสอดประสานด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการระดมทุนเพื่อจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ACMECS และ 3.การพัฒนาภูมิภาคในลักษณะยั่งยืนและมีนวัตกรรม
และยังเตรียมจัดการประชุม High Level Joint Commission (HLJC) ครั้งที่ 4 ในเดือนกรกฎาคม เพราะไทยมีความสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับ CPTPP เพื่อขอให้ญี่ปุ่นช่วยศึกษาผลกระทบต่อประเทศไทย โดยเฉพาะภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมยา ตลอดจนช่วยติดตามความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง และการลงทุนในระบบขนส่งทางรางเส้นทางอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร รัฐบาลยังต้องการเร่งรัดการสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) จึงต้องเร่งรัดการแต่งตั้งกรรมการผู้อำนวยการการบินไทยและประธานบอร์ด เพื่อเร่งเดินหน้าโครงการขนาดใหญ่ และการพัฒนาท่าเรือแหลมฉลังเฟส 3 เพื่อการลงทุนโครงการขนาดใหญ่คืบหน้าจะดึงความเชื่อมั่นการลงทุนกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้มากกว่าในปัจจุบัน.-สำนัข่าวไทย