นนทบุรี 1 พ.ค. – กระทรวงพาณิชย์ระบุจากราคาน้ำมันและราคาอาหารสดที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนที่ผ่านมาสูงขึ้นร้อยละ 1.07 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และเป็นอัตราสูงที่สุดในรอบ 14 เดือน
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ทางสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าได้สรุปจำนวนรายการสินค้าทั้ง 422 รายการ ที่นำมาคำนวณอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนเมษายน 2561 พบว่า มีสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น 239 รายการ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ข้าวสารเจ้า ก๊าซหุงต้ม และผลไม้สดที่ปรับจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ส่วนราคาสินค้าที่ยังทรงตัว 71 ราย และสินค้าที่ลดลง 112 รายการ เช่น เนื้อหมู ไก่สด ไข่ไก่ และข้าวเหนียว เป็นต้น โดยสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.68 และหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 1.31 จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นถึงร้อยละ 3.90 ทำให้อัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนที่ผ่านมาสูงขึ้นร้อยละ 1.07 สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และเป็นอัตราสูงที่สุดในรอบ 14 เดือน และในช่วง 4 เดือนแรก อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นร่อยละ 0.75
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเดือนนี้ แม้ว่าจะมีปัจจัยมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและการปรับตัวของราคาสินค้าเกษตรเป็นหลัก แต่โดยรวมสะท้อนว่าการบริโภคและการใช้จ่ายของทางภาครัฐและเอกชนอยู่ในระดับที่ดี ทำให้มีการหมุนเวียนเงินในระบบเอื้อต่อกำลังซื้อและการบริโภคของประชาชน โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 2 ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาสินค้าและบริการที่จะเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงาน รวมทั้งโครงการลงทุนภาครัฐเอกชนเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมส่งผลให้ความต้องการและราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าทั้งปีอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.7 – 1.7 ตามเดิม. – สำนักข่าวไทย