สธ.30เม.ย.-พบวัยทำงานเสี่ยงเจ็บป่วยด้วยหลายโรคที่เกิดจากการทำงาน ทั้งจากการสัมผัสสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือทำงานหนักเกินความสามารถของร่างกาย โดยโรคที่พบมากที่สุด คือโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวว่า เนื่องในวันที่ 1พ.ค.นี้ เป็นวันแรงงานแห่งชาติ กรมการแพทย์ จึงใช้โอกาสนี้ขอให้ผู้ใช้แรงงานดูแลสุขภาพตนเองและระวังโรค ซึ่งเกิดจากการสัมผัสสิ่งคุกคามในที่ทำงาน เช่น โรคปอดอักเสบในคนที่แข็งแรงดี โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เมื่อไปพบแพทย์อาจนึกไม่ถึงว่าจะเป็นโรคจากการทำงาน ทำให้การวินิจฉัยพลาดไป รักษาโรคแต่ไม่ได้รักษาที่สาเหตุทำให้มีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้
สำหรับโรคจากการทำงานสามารถป้องกันได้ ผู้ใช้แรงงานรักษาสุขภาพให้แข็งแรง งดเหล้า บุหรี่ ลดความเครียดใช้อุปกรณ์ในการป้องกันตนเองจากสารเคมี และเสียงดัง ยกของอย่างถูกวิธี และไม่ทำงานหนักจนเกินไป เป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคจากการทำงาน
ด้าน นพ.สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการ รพ.นพรัตนราชธานี ในสังกัดกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรงพยาบาลฯ โดยงานอาชีวเวชศาสตร์ได้สรุปจำนวนโรคจากการทำงานที่มีความเสี่ยงต่อผู้ใช้แรงงาน ดังนี้
โรคที่เกิดจากยากำจัดศัตรูพืช 8,689 คน ,โรคกระดูกและกล้ามเนื้อที่เกิดจากการทำงาน 81,226 คน ซึ่งมีจำนวนมากที่สุด,โรคที่เกิดจากพิษโลหะหนัก 39 คน ,โรคปอดฝุ่นหิน 236 คน,โรคปอดจากแร่ใยหิน 166 คน,โรคจากสารทำละลายอินทรีย์ 673คน ,โรคหูตึงจากเสียงดัง 60,946 คน
สำหรับหลักการป้องกันตนเองอย่างถูกวิธีคือ 1. การรู้สาเหตุของการเกิดโรค ได้แก่ คนงานและผู้อาศัยใกล้เคียงโรงงานโม่หินที่มีฝุ่นหินทรายฟุ้งกระจายเป็นโรคปอดอักเสบจากฝุ่นซิลิกาจะป้องกันได้ต้องกำจัดฝุ่นหิน ไม่ให้คนไปสัมผัส และปรับปรุงสิ่งแวดล้อม
2.การรู้การกระจายของโรค เพื่อให้ทราบกลุ่มบุคคล พื้นที่ และเวลาในการเกิดโรค ทำให้กำหนดกลุ่มที่เป็นปัญหาสาธารณสุข
3.การรู้ธรรมชาติของการเกิดโรค เนื่องจากโรคแต่ละโรคจะมีการดำเนินของโรคที่ต่างกันออกไป ซึ่งมีผลต่อการกำหนดวิธีป้องกันที่เหมาะสม
ที่สำคัญสถานประกอบการควรให้ความสำคัญในการตรวจสุขภาพประจำปีของผู้ใช้แรงงาน และหากมีปัญหาควรพบแพทย์ เป็นระยะๆ โดยตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจสุขภาพที่เกี่ยวเนื่องกับปัจจัยที่สัมผัสเพื่อสามารถสืบค้นปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่ระยะแรกของโรคและตรวจทางอาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อม .-สำนักข่าวไทย