กรุงเทพฯ เม.ย.- จับเพิ่มอีก 2 ไทยใหญ่รุมข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวอเมริกัน เหตุเกิดที่ อ.ดอยสะเก็ต จ.เฃียงใหม่
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เผยถึงความคืบหน้ากรณีการจับกุมผู้ต้องหาชาวไทยใหญ่จำนวน 3 คนข่มขืนชาวต่างชาติ ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จว.เชียงใหม่ ว่าได้รับรายงานจากกองบังคับการจังหวัดเชียงใหม่ว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.61 เวลาประมาณ 23.20 น. พนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุนักท่องเที่ยวหญิงถูกข่มขืน ที่บริเวณหมู่บ้านป่าเสร้า หมู่ 6 ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จว.เชียงใหม่ จึงออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี สัญชาติอเมริกัน ผู้เสียหายให้การว่าก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายกับเพื่อนชายเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และได้แวะดื่มสุราที่บริเวณร้านที่เกิดเหตุ ต่อมาได้มีชาย(ผู้ต้องหา)จำนวน 3 คนมาร่วมดื่มสุราด้วย เมื่อผู้เสียหายได้ลุกไปปัสสาวะบริเวณข้างถนนซึ่งเป็นที่มืด ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้เดินตามไปและได้รุมข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ทั้งสามคน จากนั้นเพื่อนชายเห็นว่าผิดปกติจึงตามไปดูและได้ควบคุมนาย SAI LAM (ดำ) อายุ 22ปี เชื้อชาติไทยใหญ่ สัญชาติเมียนมาร์ 1 ใน 3 ผู้ต้องหาไว้ได้ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนได้วิ่งหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องและเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายส่วนที่เหลือ จนกระทั้งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 คนคือนายแดง SAI LAING อายุ 22 ปีและนายหน้อย อายุ 37 ปี เชื้อชาติไทยใหญ่ สัญชาติเมียนมาร์ ได้ในเวลาใกล้เคืองกัน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นในลักษณะเป็นการโทรมหญิง” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการได้อย่างรวดเร็วทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ สอบสวนพยานในเหตุการณ์ จนกระทั้งสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนด้วยความถูกต้องและรวดเร็ว โดยเฉพาะสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยว หากมีคดีเกิดขึ้นแล้วต้องมีการจับกุมผู้ต้องหาให้ได้ เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย เยียวยาความเสียหายให้ผู้เสียหายและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย