ทำเนียบฯ 25 เม.ย.- รองนายกรัฐมนตรี แจงจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมาย กสทช.เพื่อให้การสรรหา กสทช. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่กลับสู่วังวนเดิม ยันไม่ล่าช้า
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ คสช.ออกคำสั่ง ม.44 ว่าด้วยการยกเลิกและระงับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคล เพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า คำสั่งดังกล่าว คือให้ยุติการสรรหา กสทช. โดยให้กสทช.เดิมทำหน้าที่ต่อไปก่อน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแก้กฏระเบียบการสรรหา กสทช. เพราะไม่ต้องการให้การสรรหาครั้งใหม่กลับไปในวังวนเดิม
ต่อข้อถามว่า การออกคำสั่งดังกล่าว รู้ก่อนที่ สนช.จะลงมติคว่ำการเลือก กสทช. หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาจเป็นส่วนหนึ่ง เพราะมีรายงานเข้ามาว่ามีปัญหาอะไร และหากปล่อยไว้จะเกิดอะไรขึ้น เป็นปัญหาที่เกิดจาก สนช. กรรมการ สรรหา และ กสทช. ที่รู้ว่าจะเป็นปัญหา เมื่อถามว่า การแก้ไขกฏหมายกำหนดกรอบระยะเวลาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้กำหนดกรอบไว้ แต่การทำงานไม่มีอะไรชะงัก ซึ่งทุกฝ่ายรู้ดีว่า ต้องทำให้ทันเวลา คงไม่ล่าช้า แต่หากไม่แก้ก็จะกลับมาสู่วงจรเดิมอีก ดังนั้นต้องแก้กฏระเบียบทั้งเรื่องวิธีการและเวลา ไม่ต้องห่วงเพราะกสทช.ที่รักษาการไม่ได้อยากทำหน้าที่นาน
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ว่า เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) คสช. เห็นชอบในหลักการเบื้องต้น คือช่วยเหลืออย่างไรให้เป็นธรรมแก่รัฐ ประชาชนผู้ประกอบการ และผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ที่มองแนวทางของรัฐบาลอยู่ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องจะประชุมอีกครั้ง เราได้นำข้อคิดของทีดีอาร์ไอมาประกอบการพิจารณาว่าจะช่วยอย่างไรให้สมน้ำสมเนื้อ ไม่ใช่เพื่อการเก็งกำไร แต่ให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ แก่รัฐ แก่ประชาชน น่าจะใช้เวลาไม่นานเพราะ เข้าใจ ความเดือดร้อนของทีวีดิจิตัลอยู่.-สำนักข่าวไทย