ทำเนียบฯ 24 เม.ย. – ชาวไร่ยาสูบยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ร้องให้เร่งแก้ปัญหาภาษียาสูบ หลังกระทบหนัก
นายสุธี ชวชาติ นายกสมาคมผู้บ่มยาสูบลำปาง พร้อมด้วยตัวแทนชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศ เดินทางมาทำเนียบรัฐบาลยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ทบทวนอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบ หลังจากกฎหมายผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มา 6 เดือนแล้ว พบว่ากระทบต่อโรงงานยาสูบอย่างรุนแรง ต้องลดรับซื้อใบยาแห้ง และกระทบไปยังเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบถึงร้อยละ 40 จากเกษตรกรภาคเหนือ อีสาน และหากอัตราภาษีใหม่มีผลบังคับใช้ในปี 2562 ต้องปรับอัตราภาษีใหม่อีกรอบ เกษตรกรจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ปัจจุบันมีชาวไร่ยาสูบกว่า 50,000 ครอบครัว ปลูกยาสูบพันธ์เวอร์จิเนียในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และยาสูบพันธ์เบอร์เล่ย์ ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพชรบูรณ์ ส่วนพันธ์เตอร์กีช ปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 10 จังหวัด หวั่นเกรงว่ารายย่อยจะได้รับผลกระทบ และผู้สูบบุหรี่อาจหันไปสูบบุหรี่เถื่อนหนีภาษีเพิ่มขึ้น ทำให้ภาครัฐเสียประโยชน์
ผู้สื่อข่าวรายางานว่าในช่วงปลายปี 2562 ต้องปรับอัตราภาษีเท่ากันทุกประเภทจัดเก็บร้อยละ 40 จะส่งผลให้ราคาขายปลีกแทบทุกยี่ห้อทั้งในและต่างประเทศต้องขยับมากกว่า 90 บาทต่อซอง จะส่งผลให้ผู้บริโภคให้ไปสูบยาเส้นมากขึ้น ขณะที่การเก็บภาษียาเส้นที่อัตราแตกต่างกันมากระหว่างยาเส้นปกติร้อยละ 0.005 กับยาเส้นปรุงร้อยละ 1.2
นอกจากนี้ กทม.เตรียมยกร่างข้อบัญญัติรองรับจะเริ่มจัดเก็บตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป ทำให้ กทม.มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยการจัดเก็บภาษียาสูบ 10 สตางค์/มวน จากยอดขายของผู้ประกอบการยาสูบทั้งจำหน่ายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งยาสูบที่นำเข้าจากต่างประเทศจะต้องเสียภาษี 2 เท่า จากปัจจุบันเสียให้ อบจ.อยู่แล้ว และ กทม.จะจัดเก็บเพิ่มอีก. – สำนักข่าวไทย