อสมท เดินหน้าโปรเจกต์ MCOT INNO 2018

อสมท 21 เม.ย.-“ไม่เปลี่ยน ไม่รอด” อสมท เดินหน้าโปรเจกต์ MCOT INNO 2018 ปั้นมีเดีย อินโนเวชั่น


การพัฒนาในยุคดิจิทัล เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสื่อต้อง “ปรับตัว”  หรือไม่ก็  “ปิดตัว” เมื่อ Disruptive Technology หรือเทคโนโลยีใหม่เข้ามาทำให้ภูมิทัศน์ของสื่อเปลี่ยนไปจนไม่มีวันเหมือนเดิมและทำให้ธุรกิจสื่อต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้แต่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) องค์กรสื่อขนาดใหญ่ หรือ Content Developer ที่ดำเนินธุรกิจสื่อมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ก็เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมมุ่งสู่การสร้าง “องค์กรนวัตกรรม” (Innovative Organization) ผ่านโครงการ “MCOT INNO 2018” โดยเปิดตัวโครงการด้วยกิจกรรม MCOT INNO TALK เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา  


นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อุตสาหกรรมสื่อเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก Disruptive Technology เป็นลำดับต้นๆ และรุนแรงที่สุด ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ เพลง และภาพยนตร์ ต้องแข่งขันกับผู้เล่นรายใหม่ เช่น Facebook, Netflix Line TV  ความอยู่รอดของธุรกิจสื่อในวันนี้ จึงขึ้นอยู่กับ Content เป็นสำคัญ ผู้ผลิต Content และสื่อจึงต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง “หากไม่เปลี่ยน ก็ไม่รอด” “ปรับอย่างไร เปลี่ยนอย่างไร จึงจะรอด” เป็นสิ่งที่ธุรกิจสื่อในบ้านเรากำลังพยายามแสวงหาแนวทาง หรือ solution ใหม่ๆ หาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมที่ทำให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าหลังจากธุรกิจเดิมไม่อยู่ในช่วงที่จะเติบโตได้อีกมากนัก สถานการณ์ในขณะนี้ อสมท จึงไม่ต่างจากองค์กรสื่อหลักอื่นๆ ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี การเติบโตของสื่อ online การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจทีวีดิจิทัล การรับมือกับความท้าทายในยุค “ปลาเร็วกินปลาช้า” และ “ใครๆ ก็เป็นสื่อได้”  จึงไม่ใช่เรื่องง่าย   

ดังนั้น ถ้าธุรกิจสื่อมีนวัตกรรมใหม่ๆ ก็จะเป็นตัวเชื่อมโยงและยกระดับนวัตกรรมของประเทศ ตามที่รัฐบาลได้กำหนด “ประเทศไทย 4.0” เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทิศทางการขับเคลื่อนของประเทศไปสู่ยุคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว คือ การพัฒนาศักยภาพคนไทยให้เป็น “คนไทย 4.0”  ที่สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี มาสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมได้”


อสมท เดินเกมรุก “มุ่งสร้างองค์กรนวัตกรรม” 

บมจ.อสมท ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการด้านนวัตกรรมภายในองค์กร เพื่อสร้าง“องค์กรนวัตกรรม” และการหาแนวทางใหม่ๆในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า เติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมและพัฒนาบุคลากรของ อสมท ให้สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีความเข้าใจรูปแบบธุรกิจในบริบทใหม่จากการเติบโตของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง  ซึ่งจะมีความสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะต่อไป   

การสร้าง “องค์กรนวัตกรรม” จึงเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ของ อสมท เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล หรือ Digital Transformation ซึ่ง อสมท ให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น คือ 1.ระบบการบริหารจัดการองค์กร (Organization) มีโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมและเอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม 2.การพัฒนาทักษะของพนักงาน และ 3.วัฒนธรรมองค์กร MCOT+S ของ อสมท ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ระยะเวลากว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ตาม ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล  บมจ.อสมท ในฐานะองค์กรสื่อขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจสื่อดั้งเดิม หรือ offline media มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี และเป็นหนึ่งในองค์กรสื่อหลักของประเทศที่ให้บริการ content ทั้งข่าวสาร สาระความรู้ และความบันเทิง ผ่านเครือข่ายสื่อที่ครบวงจรของ อสมท ทั้งทีวีดิจิทัล 2 ช่อง คือ  ช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 และช่อง MCOT Family หมายเลข 14   MCOT Radio Network  เครือข่ายวิทยุ อสมท ทั้งส่วนกลางที่อยู่ในอันดับ 1 ใน 3 ของแต่ละ segment  และวิทยุภูมิภาคทั่วประเทศ รวม 62 สถานี ที่มีฐานผู้ฟังครอบคลุมทุก segment รวมทั้งสำนักข่าวไทย หนึ่งในสำนักข่าวหลักของประเทศ 9 Entertain ผู้นำสื่อบันเทิงไทย และสื่อดิจิทัล โดยได้เริ่มพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มของตนเอง ทั้งของสำนักข่าวไทย ทีวีดิจิทัล  MCOT Radio Network, 9 Entertain และล่าสุด คือ “The M Wink รหัสลับคับจอ” ทางหน้าจอช่อง 9 MCOT HD ช่อง 30 และ MCOT Family ช่อง 14 และสื่อในเครือของ อสมท ที่ผู้ชมสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดที่ปรากฏบนหน้าจอ เพื่อรับโปรโมชั่นและส่วนลดจากบริการและร้านค้าชั้นนำมากมาย

MCOT INNO 2018 ประตูต่อยอดนวัตกรรมสื่อในเชิงพาณิชย์ 

นายเขมทัตต์ กล่าวต่อไปว่า “The rules of the game are changing” แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี อาจทำให้บางธุรกิจล้มหายตายจากไป หรือตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน  แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยสร้างธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้ ซึ่ง อสมท ในบทบาทของการเป็น “หุ้นส่วนสังคมไทย” พร้อมสนับสนุนผลงานนวัตกรรมสื่อที่สามารถพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้  เพื่อแสวงหา “หุ้นส่วน” ที่จะมาสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน ในรูปแบบ O-to-O หรือ Online-to-Offline Strategy ซึ่ง อสมท ได้จัดโครงการ CSR ขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้ Theme “U ME IDEA” โดยปีนี้เป็นการจัดทำโครงการ “MCOT INNO 2018” ชิงเงินรางวัลกว่า 200,000 บาท  เพื่อส่งเสิรมการพัฒนาด้านนวัตกรรมสื่อขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสให้ นักศึกษา นักพัฒนาอิสระ และบุคคลในแวดวงธุรกิจ Startup และผู้ที่สนใจได้มีโอกาสนำเสนอไอเดียผลงานการสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่อ (Media Innovation) ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่อที่ต่อยอด หรือ synergy กับธุรกิจของ อสมท  หรือ การสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่ออื่นๆ ที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่า และร่วมส่งผลงานเข้าประกวดในโครงการ MCOT INNO 2018 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมสื่อของประเทศ 

สำหรับโครงการ MCOT INNO 2018 เปิดตัวด้วยการจัดจัดกิจกรรม MCOT INNO TALK ในวันนี้ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ Media Innovation และการสร้างรูปแบบธุรกิจสำหรับนวัตกรรมสื่อ ตลอดจนเปิดรับมุมมองใหม่ๆ และเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้าน Media Innovation และผู้ที่อยู่แถวหน้าของวงการสตาร์ทอัพเมืองไทย หวังว่าจะช่วยจุดประกายไอเดียด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่อให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา หลังจากนี้ อสมท จะเปิดรับผู้สมัคร ทั้งในประเภทบุคคลและทีม ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.- 30 มิ.ย.2561 ทาง www.umeidea.net และเปิด Pitching Challenge จำนวน 2 ครั้ง พร้อมกับการพัฒนา Prototype สำหรับรางวัล ได้แก่ รางวัล รางวัล Best of the Best จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท, รางวัล Best in Interactive Media จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท, รางวัล Best in Media Business Model  เงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท, รางวัล Best for TV and Radio Business จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท ประกาศผลในเดือน ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]