ทช.ลงประจวบฯ เตรียมงบวางทุ่น-ตาข่ายกันฉลาม

ประจวบคีรีขันธ์ 18 เม.ย.- รองอธิบดี ทช.-ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เร่งหามาตรการดูแลความปลอดภัยการลงเล่นน้ำทะเล พร้อมวอนประชาชนอย่าตื่นตระหนกกรณีนักท่องเที่ยวถูกสัตว์ทะเลกัด เตรียมจัดงบวางทุ่น-ตาข่ายหาดทรายน้อยถึงเขตหัวหินกันฉลาม ควบคู่การรักษาสมดุลทางธรรมชาติ


นายโสภณ  ทองดี  รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ประชุมร่วมกับนายพัลลภ  สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อหาแนวทางดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในการเล่นน้ำทะเล หลังจากนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกสัตว์ทะเลกัด คาดว่าเป็นฉลาม ขณะดำน้ำบริเวณหาดทรายน้อย อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้แพทย์รักษาอาการปลอดภัยแล้ว พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกรุงเทพ – หัวหิน 

นายโสภณ  กล่าวว่า  พล.อ.สุรศักดิ์  กาญจนรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเร่งแก้ปัญหาในเรื่องนี้ โดยใช้หลักวิชาการ คำนึงถึงสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ทะเลในธรรมชาติ  รวมถึงความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะจัดสรรงบประมาณจัดทำทุ่นและตาข่ายป้องกันฉลามที่หาดทรายน้อย ส่วนรูปแบบจะต้องหารืออีกครั้งกับเทศบาลเมืองหัวหิน และจากการสำรวจแนวหาดทรายน้อยมีระยะทางประมาณ 350 เมตร คาดว่าใช้งบประมาณไม่มาก นอกจากนี้ จะติดป้ายเตือนระวังบริเวณเขตที่อยู่อาศัยของฉลามซึ่งทราบว่าบริเวณดังกล่าวมักจะมีฉลามหัวบาตรมาหากินปลาเล็กช่วงเวลาเย็นถึงค่ำที่ร่องน้ำตื้นบริเวณวัดถ้ำเขาเต่า ซึ่งเป็นเขตอภัยทาน  และจากการสอบถามเจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเต่าคาดว่าน่าจะมีฉลามหัวบาตรเข้ามาหากิน 40-50 ตัว จึงเสนอให้ทำแนวทุ่นและตาข่ายป้องกันฉลามขยายพื้นที่ออกไปหากินถึงแนวเขตทะเลหัวหินด้วย  


นายโสภณ กล่าวด้วยว่า ระหว่างนี้ทางกรมฯ จะจัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานที่่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยที่หน้าหาด และให้นำเรือยางขนาด 80 ฟุตมาลอยลำที่บริเวณหาดทรายน้อยพร้อมออกปฏบัติการช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ทันทีที่ประสบเหตุ รวมทั้งจะส่งทีมนักวิชาการมาศึกษาข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพด้วย

ด้านผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า  ขณะนี้จังหวัดได้ออกมาตรการเฝ้าระวังดูแลนักท่องเที่ยว เช่น การจัดทำป้ายแจ้งเตือนระมัดระวังการเล่นน้ำชายหาด 3 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ และจีน จัดชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังและให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว แนะนำให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำอยู่ห่างจากพื้นที่ที่มีน้ำขุ่น  อย่าออกไปบริเวณน้ำลึกห่างจากชายฝั่งมากจนเกินไป  ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการโรงแรม  ร้านค้าร้านอาหาร ให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวถึงข้อควรระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยนักท่องเที่ยวอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว  เพราะภาครัฐจะใช้รูปแบบการแก้ไขปัญหาเป็นขั้นตอน คำนึงถึงความปลอดภัยประชาชนเป็นหลัก ควบคู่กับการรักษาสมดุลของระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน