“พาณิชย์” แจงผลสำเร็จการประชุม TIFA กับสหรัฐฯ

กรุงเทพฯ  16 เม.ย.-กระทรวงพาณิชย์ รายงานผลการประชุม TIFA
กับสหรัฐฯ  โดยได้ชี้แจงเหตุผลขอให้สหรัฐ
ไม่ให้ขึ้นภาษีเหล็กกับอลูมิเนียมจากไทย  โชว์ผลงานคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและแรงงาน
ผลักดันการต่ออายุ
GSP จนสำเร็จ


นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยหลังจากกลับจากนำคณะผู้แทนไทย ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศ
เข้าร่วมการประชุม
TIFA กับสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 910
เมษายน 2561 ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา ว่า
ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญเรื่องการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยคำนึงถึง
ความสัมพันธ์ที่ดีและมีมายาวนานระหว่างกันถึง 200 ปี ไทยได้ขอให้สหรัฐฯ
ยกเว้นการใช้มาตรการ 232 และไม่ขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากไทย
ชี้แจงเหตุผลในฐานะประเทศพันธมิตรที่ดีต่อกันมายาวนาน
อีกทั้งไทยมีการส่งออกและครองส่วนแบ่งตลาดเหล็กและอลูมิเนียมในสหรัฐฯ น้อย
มีมาตรการกำกับดูแลไม่ให้เหล็กจากประเทศอื่นมาอ้างสิทธิว่าเป็นเหล็กจากไทย
ตลอดจนมีการใช้มาตรการทุ่มตลาดกับเหล็กนำเข้าราคาต่ำทะลักเข้าไทย
และพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการแก้ไขปัญหาเหล็กส่วนเกินในตลาดโลก ขณะเดียวกัน
ไทยได้แจ้งการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
การคุ้มครองแรงงานซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ทั้งในส่วนการปราบปรามสินค้าละเมิดฯ
การบังคับใช้กฎหมาย และการพัฒนาปรับแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
และได้ขอให้สหรัฐฯ พิจารณาต่ออายุสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือ
GSP แก่ไทย
โดยไม่จัดไทยไว้ในกลุ่มประเทศที่ต้องถูกทบทวนว่าจะได้ต่ออายุ
GSP หรือไม่

 


นางนันทวัลย์ กล่าวว่า การประชุม TIFA ครั้งนี้
ประสบความสำเร็จด้วยดี โดยเฉพาะในประเด็นการต่ออายุ
GSP เนื่องจากในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2561 สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (
USTR) ได้ประกาศรายชื่อประเทศที่ต้องถูกทบทวนการต่ออายุ
GSP เพราะไม่ได้เปิดตลาดและคุ้มครองสิทธิแรงงาน
และไทยไม่ได้อยู่ในรายชื่อดังกล่าว
โดยประเทศที่อยู่ในรายการทบทวนและอาจเสี่ยงถูกตัด
GSP จากสหรัฐฯ
มี 3 ประเทศ คือ อินเดีย (กรณีเปิดตลาดโคนมและอุปกรณ์ทางการแพทย์) อินโดนีเซีย
(กรณีเปิดตลาดสินค้า บริการและการลงทุน) และคาซัคสถาน
(กรณีการคุ้มครองแรงงานและสิทธิแรงงาน) นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2561
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ
ได้ประกาศรายชื่อประเทศที่มีการบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่อาจส่งผลกระทบกับสหรัฐฯ
ซึ่งจะต้องเฝ้าระวัง และมีการหารือกับสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด มี 6 ประเทศ คือ จีน
ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์
ซึ่งไทยไม่ได้อยู่ในรายชื่อดังกล่าวเช่นกัน

 

นางนันทวัลย์ เสริมว่า
ไทยยังได้หารือขอให้สหรัฐฯ เร่งกระบวนการตรวจสอบด้านสุขอนามัยกับสินค้าส้มโอของไทย
เพื่อให้สามารถส่งออกส้มโอไปสหรัฐฯ ได้ ซึ่งสหรัฐฯ แจ้งว่ากระบวนการต่างๆ
ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว และหากไม่มีผู้คัดค้าน ไทยน่าจะสามารถส่งออกส้มโอไปสหรัฐฯ
ได้ภายในปีนี้ รวมทั้งได้หารือเรื่องที่จะให้กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ
รับรองให้หน่วยงานไทย อาทิ กรมการข้าว และกรมวิชาการเกษตรของไทย
เป็นหน่วยงานที่สามารถตรวจและออกเครื่องหมายรับรองเกษตรอินทรีย์ของสหรัฐฯ
กับสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยได้
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทยไปตลาดโลก
โดยเฉพาะในตลาดที่ให้การยอมรับตราเครื่องหมายรับรองเกษตรอินทรีย์ของสหรัฐฯ


 

สำหรับเรื่องที่สหรัฐฯ
เรียกร้องให้ไทยยอมรับค่าความปลอดภัยของสารเร่งเนื้อแดง (แรคโตพามีน)
ในเนื้อหมูและเครื่องใน ตามมาตรฐาน
Codex นั้น
ไทยได้ชี้แจงให้เห็นว่าจะต้องมีการศึกษาและมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับความปลอดภัยของผู้บริโภค
ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะหารือร่วมกันต่อไปในเรื่องการศึกษา
และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับระดับความปลอดภัยของการใช้สารแรคโตพามีน
การประเมินความเสี่ยงต่อผู้บริโภค และการจัดการด้านความปลอดภัยผู้บริโภค เป็นต้น

 

ทั้งนี้ ในปี 2560 สหรัฐฯ
เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 3 ของไทย รองจาก จีน และญี่ปุ่น
ทั้งสองฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวม 41
,400.82 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี
2559 ร้อยละ 13.30 โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 26
,536.64
ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีสินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ
เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องนุ่งห่ม ผลไม้กระป๋องและแปรรูป
เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า และไทยนำเข้าจากสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 14
,864.18
ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีสินค้านำเข้าสำคัญได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ น้ำมันดิบ อุปกรณ์ยานยนต์ แผงวงจรไฟฟ้า
เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์
.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

จับค้ายา

ป.ป.ส.เปิดปฏิบัติการฯ จับนักค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์รวม 101 ล้าน

ป.ป.ส.เปิดปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ครั้ง 2 ปิดล้อมตรวจค้น 5 จังหวัด 11 จุดปฏิบัติการ จับนักค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์รวม 101 ล้านบาท

ชายคลั่ง

ล่าชายคลั่ง ยิงดับ 3 ราย จ.หนองบัวลำภู

เกิดเหตุยิงกัน เสียชีวิต 3 ราย ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู คนร้ายหลบหนีไปได้ ทราบชื่อนายสามารถ อายุ 58 ปี ขี่จักรยานยนต์มุ่งหน้าไป จ.อุดรธานี

World's oldest man dies aged 112 in England

ชายอายุยืนที่สุดในโลก 112 ปี ถึงแก่กรรมแล้ว

ตาทวดชาวอังกฤษเจ้าของตำแหน่งบุคคลอายุมากที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ ถึงแก่กรรมแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วยวัย 112 ปี