fbpx

รฟท.รณรงค์ลดอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟ

ยมราช 13 เม.ย. – รฟท.รณรงค์ลดอุบัติเหตุสงกรานต์ ให้ความรู้ป้ายสัญลักษณ์เตือน และวิธีข้ามจุดตัดทางรถไฟอย่างปลอดภัย


นางสิริมา หิรัญเจริญเวช รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินรณรงค์ลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟใน “โครงการ 1+1=0 รถไฟไทยปลอดภัยทุกเส้นทาง” พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับป้ายสัญลักษณ์เตือนก่อนถึงจัดตัดรถไฟ โดยมีเป้าหมายป้องกันอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ปี 2561 บริเวณจุดตัดทางรถไฟสถานียมราช 


นางสิริมา กล่าวว่า  สงกรานต์แต่ละปีมีประชาชนกลับบ้านด้วยระบบขนส่งสาธารณะไม่ต่ำกว่า 15 ล้านคน  เฉพาะเดินทางโดยรถไฟมีสูงถึง 700,000 คน แม้ที่ผ่านมาจะมีการรณรงค์และดำเนินการมาตรการเชิงรุกในการสร้างความปลอดภัย ยังพบว่าแต่ละปีอุบัติเหตุยังสูง ซึ่งมีสาเหตุจากความประมาทและการขาดวินัยในการใช้รถใช้ถนนตามกฎหมายจราจร โดยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถไฟส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับรถยนต์และมักเกิดขึ้นบริเวณจุดตัดประเภททางลักผ่าน และจุดตัดทางรถไฟที่ควบคุมด้วยเครื่องหมายจราจรเพียงอย่างเดียวถึงร้อยละ 87  

ทั้งนี้ มีคำแนะนำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ คือ 1.หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร 2.ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นภายในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ3.หากต้องการจอดรถ ต้องจอดรถในระยะไม่ต่ำกว่า 15 เมตรก่อนถึงทางรถไฟ 4.หากเห็นป้ายสัญลักษณ์ ให้ชะลอความเร็วและจอดดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถไฟแล่นผ่านมา 


สำหรับป้ายเตือนหรือป้ายสัญญาณจราจรติดตั้งบริเวณจุดตัดทางรถไฟทุกแห่งนั้น เพื่อเตือนให้ประชาชนรู้ว่าบริเวณนี้เป็นทางรถไฟและจะมีรถไฟวิ่งผ่านจึงจะต้องระวังเป็นพิเศษ ดังนั้น จำเป็นต้องทำความเข้าใจความหมายของป้ายหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจรไปมา เช่น ป้ายทางข้ามทางรถไฟมีเครื่องกั้นทาง ป้ายทางข้ามทางรถไฟไม่มีเครื่องกั้นทาง  ป้ายหยุด และป้ายกากบาท “ระวังรถไฟ” .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553