กรุงเทพฯ
6 เม.ย. บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ ค่าเงินบาท-หุ้นไทย สัปดาห์หน้า ยังได้รับแรงกดดันจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
ล่าสุด “ทรัมป์ “ให้ความเห็นควรเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย
จำกัด รายงาน สัปดาห์ที่ผ่านมา
เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างจำกัด
โดยแม้เงินบาทจะมีปัจจัยกดดันระหว่างสัปดาห์จากทิศทางที่อ่อนค่าของสกุลเงินในภูมิภาคท่ามกลางการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุน
แต่กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทก็ยังคงค่อนข้างจำกัด
เนื่องจากยังได้รับแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่
ทิศทางภาพรวมของเงินดอลลาร์ฯ
เองก็ยังคงถูกถ่วงด้วยความกังวลเกี่ยวกับมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ
และจีน
ในวันพฤหัสบดี (5 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับ 31.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 มี.ค.)
ด้าน ดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงจากสัปดาห์ก่อน
โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,739.92 จุด ลดลง 2.05% จากสัปดาห์ก่อน
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันขยับขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.70% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 64,211.43 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 475.56 จุด ลดลง 3.08% จากสัปดาห์ก่อน
สัปดาห์ถัดไป
(9-12 เม.ย.)
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.05-31.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,725 และ 1,710 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,750 และ 1,760 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
คงได้แก่ ประเด็นต่อเนื่องของมาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
รวมถึงการปรับพอร์ตของนักลงทุนก่อนช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อื่นๆ ได้แก่ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.
ของยูโรโซน และอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของจีน
ด้าน
ตลาดหุ้นสหรัฐ ราคาน้ำมัน ปิดดตลาดวานนี้ (5 เม.ย. ) ฟื้นตัว ราคาทองคำลดลง เพราะนักลงทุนมองว่า
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากมีการส่งสัญญาณพร้อมเปิดประตูเจรจา อย่างไรก็ตามสัญญาณนี้
ที่เกิดขึ้นก่อนที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐออกมาเปิด
เปิดเผยว่า ได้ขอให้สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐ (USTR) พิจารณารายการสินค้านำเข้าจากจีนที่สหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก
1 แสนล้านดอลลาร์ จากที่ กระทรวงการคลังจีนประเมินรายการสินค้าของสหรัฐที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในวงเงิน
5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐก่อนหน้านี้
ซึ่งประกอบด้วยสินค้า 106 รายการใน 14 หมวดสินค้า
รวมถึงถั่วเหลือง วิสกี้ รถยนต์ เครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ และเคมีภัณฑ์
โดยรัฐบาลจีนจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 25% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีน
สำหรับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดวันที่ 5 เม.ย.ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,505.22 จุด
พุ่งขึ้น 240.92
จุด ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,662.84 จุด
เพิ่มขึ้น 18.15
จุด และดัชนี Nasdaq ปิดที่
7,076.55 จุด
เพิ่มขึ้น 34.44
จุด ราคาน้ำมันตลาดเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 17 เซนต์
ปิดที่ 63.54 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.
เพิ่มขึ้น 31
เซนต์ ปิดที่
68.33 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลง ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 11.70 ดอลลาร์ ปิดที่
1,328.50 ดอลลาร์/ออนซ์ –สำนักข่าวไทย