เร่งไขคดีฆ่าสาวหมกเก๋ง ตั้ง 3 ปม “ชิงทรัพย์-ธุรกิจเงินกู้-ฆ่าตัวตาย”

อำนาจเจริญ 6 เม.ย.-ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญเรียกประชุมด่วน ถกเครียดนานกว่า 3 ชม. ในคดีพบศพสาววัย 33 ปี ถูกสังหารโหดหมกคารถเก๋ง ล่าสุดตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งฆ่าชิงทรัพย์ ฆ่าล้างหนี้ หรือหักหลังเกี่ยวกับธุรกิจปล่อยกู้ และฆ่าตัวตายเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งศพตรวจพิสูจน์หาสารตกค้างในร่างกายต่อไป


จากกรณีที่ญาติได้ประกาศตามหาคนหายผ่านเพจฮักอำนาจเจริญ กระทั่งมีคนมาพบเห็นรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ซอยเปลี่ยวข้างคลองส่งน้ำชลประทาน และพบศพหญิงสาววัย 33 ปี เสียชีวิตจากการใช้ถุงหิ้วพลาสติกคลุมหัวจนขาดอากาศหายใจตาย ล่าสุด พล.ต.ต.ถวาย บูรณรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ได้เรียกตำรวจ 3 โรงพัก ประชุมด่วนเพื่อคลี่คลายคดี นานกว่า 3 ชั่วโมง


พล.ต.ต.ถวาย เปิดเผยจากการตรวจสอบและสอบปากคำสามีของผู้ตาย ทราบว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ผู้ตายและสามีได้นำเงินสดจำนวนหนึ่งเดินทางไปซื้อรถตู้ที่ จ.ระยอง แต่รถตู้คันที่จะซื้อ ต้องรอให้หมดคิวรถหยุดวิ่งก่อน ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ จากนั้นคืนก่อนวันเกิดเหตุ ผู้ตายขออนุญาตสามีกลับบ้าน เพื่อไปปล่อยเงินกู้ให้ชาวบ้านในพื้นที่ สามีจึงไปส่งผู้ตายขึ้นรถจาก จ.ระยอง ไปลงที่สถานีขนส่งอุบลราชธานีในตอนเช้าของวันเกิดเหตุ  โดยมีพ่อแม่ของผู้ตายและลูกสาวขับรถไปรับที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอุบลฯ ระหว่างทางกลับมาที่อำนาจเจริญ ผู้ตายแวะโอนเงินในบัญชีที่ธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี โดยโอนครั้ง 30,000 บาท จำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวนทั้งหมด 120,000 บาท ไปให้สามี เผื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก่อนที่จะกดเงินสดออกมาอีก 6 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท ทำให้ผู้ตายมีเงินสดติดตัว 120,000 บาท จากนั้นผู้ตายได้กลับเข้าไปที่บ้านพร้อมกับครอบครัว


ผู้ตายได้บอกกับลูกสาวว่า จะเอาเงินไปให้ชาวบ้านที่ต้องการจะกู้เงิน ก่อนขับรถมาเข้าที่ในตัวเมืองอำนาจเจริญ โดยผู้ตายไปแวะที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ปตท.ทางไปยโสธร ในช่วงเวลาประมาณ 10.34 น. ก่อนที่จะวกกลับเข้ามาจอดรถที่ศาลหลักเมืองจังหวัดอำนาจเจริญ สอดคล้องกับแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ศาลหลักเมืองให้การว่า เห็นผู้ตายแวะมารับประทานก๋วยเตี๋ยวกับผู้หญิงอีก 2 คน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ก่อนที่จะหายไป และจากการตรวจสอบผู้ตายได้จอดแวะที่ตลาดใกล้โรงรับจำนำเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ เมื่อช่วงเวลา 14.00 น. ซึ่งหลังจากจอดแวะที่จุดดังกล่าวแล้วสัญญาณโทรศัพท์มือก็ไม่สามารถติดต่อได้และหายไป และพบอีกครั้งเป็นศพในรถจอดที่ซอยเปลี่ยวข้างคลองน้ำชลประทาน โดยก่อนหน้านั้นมีชาวบ้านที่ผ่านไปมาพบเห็นรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ตั้งแต่ช่วงเวลาก่อน 15.00 น. จนกระทั่งเวลา 18.00 น.ก็ยังจอดอยู่ จึงมีการแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

ตอนนี้ตำรวจเร่งให้ทุกฝ่ายตรวจสอบทุกจุดที่ผู้ตายเดินทางไป รวมถึงเช็กเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้าโทรออกทุกสาย รวมไปถึงให้ญาติเช็กทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายอยู่ครบหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบไม่พบกระเป๋าเงินของผู้ตาย รวมถึงบัตรประชาชน และเงินสดอีกจำนวน 80,000 ที่ผู้ตายนำติดตัวมาด้วย โดยยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นการเอาไปปล่อยกู้หมดแล้วหรือไม่ หรือถูกฆ่าชิงทรัพย์

ล่าสุด ตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ฆ่าล้างหนี้ หรือหักหลังเกี่ยวกับธุรกิจปล่อยกู้ หรือฆ่าตัวตายเอง เนื่องจากมีการตั้งข้อสันนิษฐานว่า ผู้ตายได้ไปซื้อยาจำนวน 3 แผง ที่ร้านสะดวกซื้อ และในรถที่เกิดเหตุก็พบยาตกหล่นอยู่ 1 เม็ด ซึ่งประเด็นดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งไปที่นิติเวช เพื่อให้ตรวจสารตกค้างในร่างกายอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน

“มาริษ” ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ร่อนหนังสือ​ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4 เจ็บ 1 ให้ยุติส่งเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมยับยั้งชั่งใจ ป้องกันความขัดแย้งขยายตัว ขอคนไทยชะลอการเดินทางไปอิสราเอล-ตะวันออกกลาง