ปลุกกระแส การแต่งตัวเป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่ควรละเมิด

รร.เอเชีย 4 เม.ย.-มูลนิธิหญิงชาย-ซินดี้ นางแบบดัง ปลุกกระแสเรียกร้องสิทธิให้ผู้หญิงไม่ถูกลวนลามช่วงเทศกาลสงกรานต์ ชี้ฉวยโอกาส ลวนลาม คุกคามทางเพศ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชุดที่ใส่ และการแต่งตัวเป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่ควรละเมิด 


มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล จัดเสวนา “ลวนลาม คุกคามทางเพศ…ขึ้นอยู่กับชุดที่ใส่จริงเหรอ?” ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการ“ชุดที่ใส่…ในวันที่ถูกลวนลาม คุกคามทางเพศ” 


น.ส.สิรินยา บิชอพ หรือซินดี้ นางแบบนักแสดงและพิธีกรชื่อดัง กล่าวว่า หลายฝ่ายรณรงค์ให้ผู้หญิงแต่งกายมิดชิด เพื่อลดปัญหาการถูกคุกคามลวนลามทางเพศช่วงสงกรานต์ อยากอธิบายว่าตนก็เคยตกเป็นเหยื่อ ถูกลวนลามในช่วงสงกรานต์ทั้งที่แต่งตัวมิดชิด จริงๆแล้วการแต่งตัวของผู้หญิงไม่ใช่ว่าผู้ชายจะทำอะไรก็ได้ การแต่งกายมันไม่เกี่ยว ไม่ยุติธรรม เหมือนเป็นการตอกย้ำในทางที่ผิด และแก้ปัญหาผิดจุด ตราบใดที่ไม่ได้อนาจาร ไม่ผิดกฎหมาย ผู้หญิงมีสิทธิที่จะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ ซึ่งเราควรยกข้ออื่นๆ มาพูด เช่น ควบคุมพฤติกรรมของผู้ชาย เจ้าหน้าที่เข้มงวด มีบทลงโทษที่ชัดเจน ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในเมื่อผู้ชายอ้างว่าการดื่มเหล้าเบียร์เป็นสิทธิที่ทำได้ไม่ผิด แต่การแต่งกายของผู้หญิงเป็นเรื่องที่ผิดอย่างนั้นหรือ 


“สงกรานต์เป็นวันที่ผู้ชายบางส่วนรอคอยเพราะรู้ว่าเป็นวันที่จะทำแบบนี้ได้ คำว่าเล่นน้ำกันอย่าคิดมาก มือเผลอไปโดน คนเยอะแออัด แต่ขอโทษนะคะ ผู้หญิงไม่ได้โง่ การรณรงค์แต่งกายมิดชิดจึงไม่ใช่ทางออก สิ่งที่ผู้ชายพยายามจะบอกพวกเราคือ ต้องแต่งตัวแบบนี้ แบบกุลสตรี รักนวลสงวนตัวถ้าแต่งตัวมิดชิดคุณจะไม่โดนลวนลามแต่จากข้อมูลมีหลายเคส มากว่า แม้ไม่ได้แต่งกายเซ็กซี่ก็ยังโดน ดังนั้นจะเอาข้ออ้างนี้มาใช้ไม่ได้” น.ส.สิรินยา กล่าว  

นอกจากนี้กล่าวด้วยว่า ประเพณีสงกรานต์เป็นประเพณีที่น่ารักสนุกสนาน นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเล่นน้ำที่เมืองไทย อยากให้ร่วมกันรักษาประเพณีนี้เอาไว้ อย่าเกินเลย หยุดฉวยโอกาส หยุดสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นและการออกมารณรงค์ติดแฮชแท็ก #donttellmehowtodress  #tellmentorespect  เพื่อต้องการเรียกร้องสิทธิให้ผู้หญิงไม่ถูกลวนลามหรือข่มขืนช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้  ขณะเดียวกันยังมีดารานักแสดงหลายคนเห็นด้วยที่ผู้หญิงจะแต่งตัวแบบไหนก็ได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล และร่วมด้วยช่วยกันแชร์แคมเปญนี้เป็นจำนวนมาก เช่น ‘โอปอล์’ ปาณิสรา,แอน ทองประสม,ซอนย่า คลูลิ่ง,ลูกเกด เมทินี,แพนเค้ก เขมนิจ เป็นต้น 

ด้าน น.ส.บี (นามสมมติ) ผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกลวนลาม คุกคามทางเพศช่วงเทศกาลสงกรานต์ กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วได้ไปเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ชื่อดังของ กทม.ตอนนั้นไปกับเพื่อน5-6คน ถูกกลุ่มคนเมาคุกคามทางเพศ จับแก้ม กระชากแขนและจับหน้าอกพยายามฉวยโอกาสทุกอย่าง จึงรีบอาศัยช่วงชุลมุนหนีออกมา วันเดียวกันเพื่อนในกลุ่มถูกกระทำอนาจารด้วยการจูบปาก ตอนนั้นไม่มีใครกล้าช่วยเพราะกลัวถูกทำร้าย สุดท้ายต้องรีบหนีออกจากพื้นที่เพราะรู้ว่าไม่ปลอดภัยแล้ว 

นอกจากนี้ เหตุการณ์ครั้งที่สอง เคยถูกลากไปรุมประแป้ง พยายามหอมแก้ม ยื่นเบียร์ให้ดื่ม ถูกคุกคามด้วยวาจาสารพัด และพอเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่กล้าไปเล่นน้ำอีกเลย รู้สึกอาย กลัว อยากฝากว่า ควรเล่นน้ำด้วยความสร้างสรรค์ ไม่ฉวยโอกาส ให้เกียรติผู้หญิง และควรเป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัยปลอดเหล้า ไม่ใช่เต็มไปด้วยคนเมาขาดสติ

ขณะที่ น.ส.จรีย์ ศรีสวัสดิ์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า มูลนิธิฯ ได้เก็บข้อมูลสำรวจความคิดเห็นผู้หญิงไทยต่อเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้หญิง1,650ราย อายุระหว่าง10-40ปี พบว่า กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งหรือ ร้อยละ59.3 เคยถูกฉวยโอกาส ถูกลวนลามคุกคามทางเพศ โดยรูปแบบพฤติกรรมการถูกลวนลาม คือ ถูกจับแก้ม ร้อยละ33.8 เบียดเสียด/จับมือ/จับแขน และใช้สายตาจ้องมองแทะโลมทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย จำนวนเท่ากัน คือ ร้อยละ18.0 ถูกแซว/ล้อเลียนส่อไปในเรื่องเพศ ร้อยละ 12.3 ถูกสัมผัสร่างกาย/ล้วงอวัยวะอื่นๆที่เกินเลย ร้อยละ9.6 และที่สำคัญเมื่อถูกลวนลามคุกคามทางเพศ มีเพียง1ใน4เท่านั้นที่เลือกจะแจ้งความดำเนินคดีสำหรับกลุ่มตัวอย่างที่ไม่เล่นสงกรานต์ให้เหตุผลว่า เพราะเคยถูกแต๊ะอั๋งจึงไม่อยากเล่นสงกรานต์/กลัวถูกฉวยโอกาสลวนลาม ร้อยละ28.10

“ปัญหาการลวนลามคุกคามทางเพศสะท้อนชัดเจนเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมทางเพศ สังคมไทยขาดการปลูกฝังให้ผู้ชายยับยั้งช่างใจ โดยทั่วไปทั้งระดับครอบครัว สื่อมวลชน ระบบการศึกษา ไม่ได้มีการออกแบบเพื่อควบคุมการแสดงออกทางเพศของผู้ชาย แต่มีข้อห้ามมากมายสำหรับผู้หญิง ยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ยิ่งตอกย้ำทำให้การลวนลามทางเพศสามารถทำได้ โดยเริ่มจากการประแป้ง การใช้สายตา การพูดแซว แล้วค่อยๆเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงการล่วงละเมิดทางเพศ  หากยังไม่แก้ไขค่านิยมแบบนี้ ปัญหาจะยิ่งลุกลามเพราะสาเหตุไม่ได้มาจากการแต่งกายของผู้ถูกกระทำ ดังนั้นสิ่งสำคัญต้องเปลี่ยนวิธีคิดให้เคารพสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของคนทุกเพศทุกวัย หน่วยงานต่างๆ ที่รณรงค์เรื่องสงกรานต์ควรเลิกใช้วาทกรรมการแต่งตัวไม่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาการคุกคามทางเพศได้แล้ว เราไม่ได้ออกมาบอกให้คนแต่งกายยั่วยุ แต่กำลังเรียกร้องให้สังคมตั้งสติ แยกแยะ ที่สำคัญการแต่งกายนั้นมิได้เป็นใบอนุญาตให้คุณข่มขืน ลวนลาม หรือคุกคามทางเพศใคร” น.ส.จรีย์  กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย