เอาจริง ‘เมาขับสงกรานต์’ ประกันงดจ่าย

สธ.4 เม.ย.-ก.สาธารณสุข เตรียมความพร้อมความปลอดภัยทางถนน รับอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์ 11-17 เม.ย.นี้  ระดมแพทย์พยาบาลประจำสถานพยาบาล ตั้งด่านตรวจในพื้นที่เสี่ยง 198 อำเภอ และใน กทม. ด้าน ปภ.เดินหน้า ประชาสัมพันธ์ เมาแล้วขับประกันไม่จ่าย โดยปีใหม่ 2561 ไม่จ่ายเงินกับผู้ประกันภัยที่เมาแล้วขับ วงเงิน  14 ล้านบาท


นพ.ปิยะสกล  สกลสัตยาทร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทาง สธ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) จะได้ร่วมกับรณรงค์ความปลอดภัยทางท้องถนน  และดำเนินการเอาจริงในการสร้างวินัยจราจรเพื่อเมาแล้วขับเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน  ลดการเสียชีวิตและพิการ โดยจะมีการระดมทีมแพทย์พยาบาล 165,158 คน ประจำช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ เพื่อให้บริการ การแพทย์ฉุกเฉินทุกกระดับ 14,492 หน่วย  และมีทีมศัลยแพทย์ประจำ  1,500 คน  


ขณะเดียวกันก็จะมีการกระจายตรวจจับวัดระดับแอลกอฮอล์ในพื้นที่เสี่ยงตามอำเภอต่างๆในต่างจังหวัด 198 อำเภอและบวก 1 ในพื้นที่ของ กทม.  โดยเน้นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551  ทั้งการห้ามขายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางเท้า ,ห้ามดื่นบนรถในขณะขับขี่หรือโดยสาร ,ห้ามขายนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด ,ห้ามขายให้กับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20ปี ซึ่งในช่วงเทศกาลสงรานต์ปี 2560 มีผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 4,141 ราย มีผู้เสียชีวิต 440 ราย   และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด  13 เมษายน   


ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย  กล่าวว่า  ในช่วงเทศกาลสงกรานต์การขับขี่บนท้องถนนต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง  เพื่อลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ ควรเตรียมผ้าเย็นชุบน้ำ เช็ดหน้าเวลาง่วง  สวมแว่นตากันแดด ป้องกันสายตาเหนื่อยล้า เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง หรือแป้ง เพื่อป้องกันการง่วงซึม เฉื่อยช้า  รับประทานเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย  และขยับร่างกายเพื่อบรรเทาความง่วง 

ขณะที่นายจุมพฎ วรรณฉัตรศิริ  ผู้อำนวยการกองบูรณาการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า หลังจากมีการบังคับกฎหมาย ควบคุมระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดห้ามเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์  ในผู้ขับขี่หากเกิดอุบัติเหตุ ทางประกันภัย จะไม่มีการจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างเด็ดขาด ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 สามารถดำเนินการตามกฎหมาย และไม่ได้มีการจ่ายเงินสินไหมรวม 14 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะยิ่งเข้มข้นมาตรการดังกล่าวมากขึ้นไปอีก หากพบว่า มีผู้ขับขี่แล้วเกิดอุบัติเหตุ ผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินค่ามาตรฐาน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ทางบริษัทจะไม่มีการจ่ายเงินชดเชย ช่วยเหลือทั้งกับเจ้าของรถผู้เกิดอุบัติเหตุ และคู่กรณี โดยผู้ขับขี่ที่เมาแล้วขับจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกรณีเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด   .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง