ปัตตานี 4 เม.ย. – นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการที่จังหวัดปัตตานี ภารกิจแรก เป็นประธานเปิดพิธีงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 13 ซึ่งปีนี้มีลูกเสือจากมิตรประเทศ 5 ประเทศเข้าร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรี กำลังอยู่ระหว่างการประชุมติดตามการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานเปิดพิธีชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งที่ 13 ปีนี้มีลูกเสือจาก 5 ประเทศเข้าร่วมด้วย
ลูกเสือและเนตรนารี จาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล กว่า 3,700 คน และคณะลูกเสือจากมิตรประเทศอีก 5 ประเทศเข้าร่วมด้วย 447 คน ประกอบด้วย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เนปาล และกาตาร์ ต่างตื่นเต้นดีใจที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรี โดยพลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสวมชุดลูกเสือเดินเข้ามาในสนามกีฬากลาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งนี้ ทันทีที่เดินทางถึง นายกรัฐมนตรีเปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนถวายราชสักการะ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร คณะลูกเสือและเนตรนารีทำความเคารพ เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา แล้วกล่าวคำปฏิญาณตน ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวโอวาทและเปิดพิธี ตามด้วยขบวนสวนสนามของลูกเสือ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้และอีก 5 ประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำปฏิญาณของลูกเสือแสดงให้เห็นว่าลูกเสือมีหน้าที่อันสำคัญหน้าที่ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ซึ่งการจัดกิจกรรมงานชุมนุมลูกเสือในครั้งนี้ มีความมุ่งหมายสำคัญคือการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ศึกษาขนบธรรมเนียมประเพณีของเพื่อนบ้านด้วย ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม และเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกัน
กระทรวงศึกษาธิการ โดยศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำหนดจัดงานชุมนุมลูกเสือขึ้น ระหว่างวันที่ 3–7 เมษายนนี้ ซึ่งมีกิจกรรมนันทนาการ และการแสดงศิลปวัฒนธรรม การผจญภัยและเดินทางไกล และกิจกรรมศาสตร์พระราชาและเทิดไท้ราชวงศ์จักรี .- สำนักข่าวไทย