กรุงเทพฯ 4 เม.ย. – “สมคิด” ตรวจงาน ก.อุตสาหกรรม ขีดเส้น 1 ปีที่เหลือ เร่งสร้างรากฐาน ผลักดันเอสเอ็มอีสู่ยุค 4.0 พร้อมขับเคลื่อน S-Curve
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม โดยระบุว่าในช่วงเวลา 1 ปีของรัฐบาลนี้ ขอให้กระทรวงการอุตสาหกรรมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ต้องเดินหน้าสร้างรากฐานพัฒนาเอสเอ็มอีให้พร้อม เพื่อให้รัฐบาลใหม่สามารถเข้ามาสานต่อ ซึ่งวันที่ 11 เมษายนนี้ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม หรือเมติของญี่ปุ่นจะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อติดตามการพัฒนาเอสเอ็มอีไทยตามที่ได้มีการลงนามเอ็มโอยูความร่วมมือกันไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ITC) ทั่วประเทศ เพื่อรองรับการให้บริการ ด้าน Co-Working Space เครื่องจักรทันสมัย การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการปรึกษาเชิงลึกให้กับเอสเอ็มอี ส่วนกลางที่ กสอ.กล้วยน้ำไท พร้อมให้บริการต้นเดือนพฤษภาคม 2561 ซึ่งมี DENSO เป็น Big Brothers ให้ความช่วยเหลือ และตั้ง Mini ITC สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งขอให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดประชุมชี้แจงสมาชิก ด้านสถาบันพัฒนาสิ่งทอ สิ่งทอไทยลำบากต้องหาเทคโนโลยีใหม่ เพื่อสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พร้อมให้ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ช่วยเหลือด้านการออกแบบแฟชั่น ซึ่งได้มอบหมายให้ กสอ.รับผิดชอบดำเนินการต่อไป
สำหรับการช่วยเหลือเอสเอ็มอีส่งออกที่ประสบปัญหาความผันผวนของค่าเงินนั้น นายสมคิด สั่งการให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ และสมาคมธนาคารไทย ขอความร่วมมือจากสมาชิกช่วยประชาสัมพันธ์แนะนำให้เอสเอ็มอีทำประกันความเสี่ยงค่าเงินมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน
ส่วนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากหรือ Local Economy ที่กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการผ่านโครงการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา “การสร้างความเข้มแข็งจากภายใน” และ “เศรษฐกิจพอเพียง” มาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนนั้น นายสมคิด ได้ขอให้มีหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัดจัดทีมงานเข้ามาช่วยระดมสมองว่า CIV แต่ละแห่ง ควรจะมีอะไรบ้าง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว และแต่ละแห่งควรมีศูนย์ของฝาก ส่วนการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์เอสเอ็มอี ทางกระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ประกาศ มอก.S แล้ว 20 มาตรฐาน 3 สาขาแล้ว ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่ม ของใช้และเครื่องสำอาง
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในส่วนการสร้างโอกาสทางธุรกิจในตลาดต่างประเทศให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยนั้น มีการจับมือกับญี่ปุ่นด้วยระบบเชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) โดยเข้าสู่ระบบ T GoodTech เป็นโครงการที่ช่วยให้เอสเอ็มอีไทย เชื่อมโยงกับ J-GoodTech ของญี่ปุ่น 1,600 ราย และเป้าหมายตลอดปี 2561 จะมีเอสเอ็มอีเชื่อมโยงเข้าสู่ระบบนี้ได้ 2,600 ราย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยสมัยใหม่ คือ เทคโนโลยี Internet of Things (IOT) เพื่อให้เอสเอ็มอีไทย เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วย.- สำนักข่าวไทย