กระทรวงการคลัง 2 เม.ย. – ออมสิน-ธอส.พร้อมตรึงดอกเบี้ยถึงสิ้นปี แม้เฟดจะส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้ง คลังมองแบงก์ลดค่าธรรมเนียมไม่ทำให้พร้อมเพย์สะดุด
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยตลาดโลก เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด ) กำหนดปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 2-3 ครั้ง ๆ ละร้อยละ 0.25 ทำให้ไทยอาจปรับเพิ่มดอกเบี้ยตามไปด้วย ขณะที่สภาพคล่องในประเทศทั้งระบบยังมีมากถึง 3-4 ล้านล้านบาท ขณะที่ธนาคารออมสินมี 300,000-400,000 ล้านบาท คาดว่าหลายแบงก์คงไม่ระดมเงินฝากเพิ่มช่วงนี้ จึงพร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ให้นานที่สุดถึงสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนรายย่อย
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกธนาคารพร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม เนื่องจากมีสภาพคล่องเพียงพอหรือประมาณ 80,000 ล้านบาท และคาดว่าเฟดเพิ่มดอกเบี้ยจะทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของไทยปรับขึ้น 1 ครั้งในปีนี้ หรือปรับเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.25 และหาก ธอส.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้คงปรับเพิ่มเพียงครึ่งหนึ่งของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) หรือประมาณร้อยละ 0.125 จึงพร้อมตรึงดอกเบี้ยได้ถึงสิ้นปีนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐในการช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน จึงไม่ส่งผลต่อยอดชำระเงินกู้ซื้อบ้านมากเกินไป
สำหรับผลการดำเนินงานวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ธอส.ปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 50,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 76.14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.04 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 กำไรสุทธิประมาณ 3,100 ล้านบาท คาดว่าปีนี้ผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามเป้าหมาย สาเหตุสำคัญการปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารขยายตัวได้ดี เพราะได้ออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่รองรับลูกค้าทุกกลุ่มอาชีพและรายได้ อาทิ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 นาน 4 ปีแรก สำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ครอบคลุมผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มียอดปล่อยสินเชื่อแล้วถึง 5,230 ล้านบาท โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (บุคลากรภาครัฐ) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 นาน 4 ปีแรก สำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ราชการยอดปล่อยสินเชื่อกว่า 4,000 ล้านบาท โครงการบ้าน ธอส.เพื่อสานรัก อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 – 2 เท่ากับ MRR – ร้อยละ 3.76 หรือเท่ากับร้อยละ 2.99 ต่อปี ยอดปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 40,000 ล้านบาท
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากมติ กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 1.5 ต่อปี แต่มีกรรมการเสียงข้างน้อยเสนอให้ขึ้นดอกเบี้ยตามทิศทางเฟด แม้มติ กนง.จะเสียงแตก แต่เสียงส่วนใหญ่ยังตรึงดอกเบี้ย เพื่อต้องการส่งเสริมการลงทุนและการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ส่วนกรณีธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ประกาศยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมโอนเงิน จ่ายบิล นั้น ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จำเป็นต้องยกเว้นค่าธรรมเนียม เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดลูกค้า หลังจากนอนแบงก์ปรับตัวยกเว้นค่าใช้จ่ายดังกล่าว แต่ไม่ทำให้พร้อมเพย์สะดุด และการแข่งขันดังกล่าวจะทำให้ยอดผู้สมัครและใช้บริการเพิ่มขึ้น เพราะใช้แพทฟอร์มเดียวกัน นับว่าสอดคล้องกับยุุทธศาสตร์ E-Payment ของรัฐบาล ในส่วนของหน่วยงานรัฐเริ่มรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมากดดันให้เอกชนต้องปรับตัวและแข่งขันในระบบชำระเงินอ่านออนไลน์. – สำนักข่าวไทย