กทม.2 เม.ย. – เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการจู่โจมทลายฐานปฏิบัติการขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่ดูไบ โทร.หลอกเหยื่อคนไทย ตระครุบตัวได้ 23 คน ก่อนส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.รับตัวคนไทย 18 คนจากตำรวจประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี หลังเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่กลุ่มผู้ต้องหาคนไทย 22 คนและไต้หวัน 1 คน ขณะนอนพักผ่อน พร้อมยึดของกลางหนังสือเดินทาง, วิทยุสื่อสารและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวงเหยื่อ พฤติการณ์ส่วนใหญ่จะโทรศัพท์หลอกลวงเหยื่อแบบเดิมๆ ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,กระทำการเป็นอั่งยี่และซ่องโจร, ร่วมกันเป็นอาชญากรข้ามชาติ ข้อหานี้มีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุก 15 ปี ซึ่งหลังจากดำเนินคดีที่ดูไบเสร็จสิ้น จึงส่งตัวกลับมาให้ตำรวจไทยดำเนินคดีต่อ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีต่อ ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้น หลังศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานข้อมูลไปยังตำรวจเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้ดำเนินการจับกุม
พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ใช้ห้องรับรองชั้น 2 สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ส่วนผู้ต้องหาคนไทยอีก 4 คน ยังอยู่ที่ดูไบโดยจะส่งตัวกลับมาพรุ่งนี้ ซึ่งก่อนการแถลงข่าวร่วมกับตำรวจดูไบ ผบ.ตร. เข้าสังเกตุการสอบปากคำด้วยตนเอง โดยระบุว่า เป็นความร่วมมือระหว่างไทยและดูไบ ในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ในดูไบ
ด้านพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. กล่าวว่า ดูไบถือเป็นฐานปฏิบัติการหรือ”รังใหญ่” สุดของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่โทรศัพท์มาหลอกลวงเหยื่อคนไทยประมาณร้อยละ 70 มีเหยื่อสูญเงินรวมนับร้อยล้านบาท ครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กัมพูชา ก่อนตรวจสอบพบเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับชาวไต้หวัน จึงขยายผลไปยังดูไบ มีตัวการใหญ่ชื่อ “ฉี เคอ” อายุ 44 ปีชาวไต้หวันเป็นตัวการใหญ่ ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ดูไบ ส่วนคนไทยถูกชักชวนจากกรุงเทพฯไปทำได้ประมาณ 1 ปี โดยเข้าดูไบอย่างถูกต้อง แต่อยู่เกินกำหนด อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมเสนออินเตอร์โพลออกหมายแดงจับตัวนายฉี เคอ เพื่อให้ยูเออี ส่งตัวมาดำเนินคดีที่ไทย พร้อมเตรียมประสานไปยังไต้หวัน เนื่องจากหัวหน้าขบวนการส่วนใหญ่เป็นชาวไต้หวัน
สำหรับปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศเกิดขึ้นมา 5 ครั้ง คือ มาเลเซีย 2 ครั้ง, กัมพูชา 1 ครั้ง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ครั้ง และจีน 1 ครั้ง รวมจับผู้ต้องหาได้ 87 คน จากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเสนอออกหมายจับอีกกว่า 300 หมายจับที่เกี่ยวข้องกับคอลเซ็นเตอร์.-สำนักข่าวไทย