fbpx

เร่งรัฐปลดล็อคเพิ่มคนรถไฟ

กรุงเทพฯ  2 เม.ย. – พนักงาน รฟท.เรียกร้องรัฐปลดล็อคมติ ครม.เดิมด่วน หลังปัญหาไม่คืบ แจงขาดคนเพียบทั้งเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ ประจำสถานี พนักงานขับรถ ช่างเครื่อง หวั่นพนักงานทำงานควงกะกระทบความปลอดภัย 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัญหาขาดพนักงานปฏิบัติหน้าที่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีมายาวนาน จากมติคณะรัฐมนตรีเดิมเมื่อปี 2541 ที่กำหนดให้รับพนักงานใหม่ได้เพียงร้อยละ 5 ของพนักงานที่เกษียณ ทำให้ปัจจุบันขาดพนักงานปฏิบัติงานรวมกว่า 8,000 อัตรา ครอบคลุมทั้งพนักงานประจำขบวนรถ พนักงานห้ามล้อ และเจ้าหน้าที่ประจำสถานี ซึ่งงานเหล่านี้ส่งผลโดยตรงทั้งต่อความปลอดภัยผู้โดยสาร และคุณภาพบริการ ซึ่งฝ่ายบริหารได้นำเสนอให้กระทรวงคมนาคมและรัฐบาลทราบปัญหาแล้ว ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยม รฟท.ก็ให้ความสำคัญต่อปัญหาดังกล่าว  ปัจจุบันพนักงาน รฟท.ยังติดตามว่ารัฐบาลจะมีมติ ครม.ใหม่ปลดล็อคมติ ครม.เดิมที่ชัดเจนเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม มีการแจกแจงอัตราเจ้าหน้าที่ที่ขาดเดือนกุมภาพันธ์ 2561  พบว่าพนักงานที่ขาดมากสุดได้แก่ พนักงานฝ่ายการช่างกลทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถ ช่างเครื่อง พนักงานซ่อมบำรุงรถจักร ตู้โดยสารต่าง ๆ จำนวน 2,280 คน รองลงมา คือ ฝ่ายการช่างโยธา ทำหน้าที่ซ่อมบำรุง ดูแลความปลอดภัยของระบบราง สะพานต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,884 คน ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ทำหน้าที่ประจำตามสถานีต่าง ๆ ทั่วประเทศ ดูแลเรื่องความปลอดภัย และให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสถานี เช่น นายสถานี เสมียนขายตั๋ว พนักงานประจำสถานี จำนวน 1,655 คน และฝ่ายบริการโดยสาร ทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารบนขบวนรถ เช่น พนักงานรักษารถ พนักงานห้ามล้อทั้งรถโดยสาร และสินค้า พนักงานตรวจตั๋ว พนักงานรถนอน จำนวน 570 คน 


สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องควงกะจนหลายครั้งอ่อนล้า แต่ไม่สามารถลาหยุดงานได้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาพบมีพนักงานรักษารถ พนักงานห้ามล้อเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถขาดถึง 36 คน ทำให้ขณะนี้ฝ่ายบริหารกำลังพิจารณาแก้ไขปัญหาขาดพนักงานโดยการยกเลิกเดินขบวนรถที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลายเส้นทาง หรือจะนำรถโดยสารมาปรับวิ่งให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวิ่งเฉพาะวันจันทร์-วันศุกร์เท่านั้น

“พนักงานรักษารถปกติทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยและตรวจตั๋ว ขบวนหนึ่งจะมีปฏิบัติหน้าที่ 3 คน ตอนนี้เหลือเพียง 1 คน ส่วนพนักงานประจำสถานีขาด ปกติจะต้องมีผู้ปฏิบัติงานตามเวรแทนวันหยุด แต่ปัจจุบัน เช่น แขวงธนบุรี ทั้งแขวงเหลือพนักงานที่ทำหน้าที่แทนแค่ 2 คน พนักงานป่วยก็ไม่สามารถลางานได้ เมื่อสภาพร่างกายไม่มีความพร้อม แต่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลผู้โดยสารจำนวนมาก เรื่องนี้คนรถไฟฯ ทราบดี และเกรงว่าปัญหาเหล่านี้เมื่อสะสมจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา ทั้งด้านความปลอดภัย และคุณภาพบริการ ปัญหารถจักรรถโดยสารที่มีไม่เพียงพอ ชำรุดบ่อย ขาดคนซ่อมบำรุง สภาพทาง โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังมาถึง มีการเดินทางของผู้โดยสารจำนวนมาก และต้องเพิ่มขบวนรถขึ้นอีก ทุกคนยังตั้งความหวังที่จะมีการปลดล็อคมติ ครม.เก่าโดยเร็ว เพราะงานขณะนี้มันเกินกำลังของพนักงาน รฟท.ไปมาก” พนักงานรายหนึ่ง กล่าว

นอกจากนี้ ปัญหาดังกล่าวยังครอบคลุมการผลิตบุคลากร ทั้งที่จะนำมาปฏิบัติงานในการเดินรถไฟปัจจุบัน  และรองรับงานระบบรางที่ รฟท.เป็นผู้ลงทุน และอาจต้องดูแลการเดินรถในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น รถไฟทางคู่อีกหลายเส้นทางที่จะทำให้รถไฟต้องจัดหาขบวนรถเพิ่ม  โครงรถไฟความเร็วสูง โครงรถไฟฟ้าสายสีแดง ขณะที่นักเรียนจากโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ที่จบการศึกษาปี 2560 จำนวน 173 คน ซึ่งกระจายกำลังทำงานให้ รฟท.ไปแล้ว แต่อยู่ในสถานะการจ้างแค่ลูกจ้างชั่วคราว จากปัญหาปลดล็อคมติ ครม.ดังกล่าว ส่วนปี 2561 นักเรียนจากโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟที่กำลังจะจบการศึกษาเดือนเมษายนนี้  136 คน และกำลังศึกษา 186 คน ซึ่งนักเรียนเหล่านี้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงในอนาคตว่าเมื่อจบมาจะได้งานทำหรือไม่ และตามปกติเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการเปิดรับสมัครนักเรียนวิศวกรรมรถไฟ เพื่อเข้ารับการศึกษาเกี่ยวกับระบบราง เป็นระยะเวลา 2 ปี แต่ไม่สามารถเปิดรับได้ และหากจะเปิดรับ รฟท.ก็ไม่สามารถยืนยันที่จะรับนักเรียนที่จบออกมาเข้าเป็นพนักงานได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นโรงเรียนเฉพาะทางทำให้นักเรียนขาดความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอนาคตของตนเองในขณะนี้


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงปัญหาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขาดแคลนพนักงาน ว่า จะมีการเรียกผู้บริหาร รฟท.เข้ามาพูดคุย โดยนโยบายเบื้องต้นเทศกาลสงกรานต์นี้จะต้องมีพนักงานปฏิบัติงานเพียงพอ ไม่กระทบการเดินรถหรือเพิ่มขบวนรถให้บริการ ส่วนการนำมติ ครม.ใหม่เพื่อปลดล็อคมติ ครม.เดิมนั้น ขณะนี้ รฟท.ได้ส่งเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคมแล้ว โดยมอบหมายให้นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม พิจารณารายละเอียดก่อนกระทรวงนำเสนอ ครม.ต่อไป โดยยืนยันจะดำเนินการโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว