เร่งรัฐปลดล็อคเพิ่มคนรถไฟ

กรุงเทพฯ  2 เม.ย. – พนักงาน รฟท.เรียกร้องรัฐปลดล็อคมติ ครม.เดิมด่วน หลังปัญหาไม่คืบ แจงขาดคนเพียบทั้งเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ ประจำสถานี พนักงานขับรถ ช่างเครื่อง หวั่นพนักงานทำงานควงกะกระทบความปลอดภัย 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัญหาขาดพนักงานปฏิบัติหน้าที่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีมายาวนาน จากมติคณะรัฐมนตรีเดิมเมื่อปี 2541 ที่กำหนดให้รับพนักงานใหม่ได้เพียงร้อยละ 5 ของพนักงานที่เกษียณ ทำให้ปัจจุบันขาดพนักงานปฏิบัติงานรวมกว่า 8,000 อัตรา ครอบคลุมทั้งพนักงานประจำขบวนรถ พนักงานห้ามล้อ และเจ้าหน้าที่ประจำสถานี ซึ่งงานเหล่านี้ส่งผลโดยตรงทั้งต่อความปลอดภัยผู้โดยสาร และคุณภาพบริการ ซึ่งฝ่ายบริหารได้นำเสนอให้กระทรวงคมนาคมและรัฐบาลทราบปัญหาแล้ว ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยม รฟท.ก็ให้ความสำคัญต่อปัญหาดังกล่าว  ปัจจุบันพนักงาน รฟท.ยังติดตามว่ารัฐบาลจะมีมติ ครม.ใหม่ปลดล็อคมติ ครม.เดิมที่ชัดเจนเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม มีการแจกแจงอัตราเจ้าหน้าที่ที่ขาดเดือนกุมภาพันธ์ 2561  พบว่าพนักงานที่ขาดมากสุดได้แก่ พนักงานฝ่ายการช่างกลทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถ ช่างเครื่อง พนักงานซ่อมบำรุงรถจักร ตู้โดยสารต่าง ๆ จำนวน 2,280 คน รองลงมา คือ ฝ่ายการช่างโยธา ทำหน้าที่ซ่อมบำรุง ดูแลความปลอดภัยของระบบราง สะพานต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,884 คน ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ทำหน้าที่ประจำตามสถานีต่าง ๆ ทั่วประเทศ ดูแลเรื่องความปลอดภัย และให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสถานี เช่น นายสถานี เสมียนขายตั๋ว พนักงานประจำสถานี จำนวน 1,655 คน และฝ่ายบริการโดยสาร ทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารบนขบวนรถ เช่น พนักงานรักษารถ พนักงานห้ามล้อทั้งรถโดยสาร และสินค้า พนักงานตรวจตั๋ว พนักงานรถนอน จำนวน 570 คน 


สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องควงกะจนหลายครั้งอ่อนล้า แต่ไม่สามารถลาหยุดงานได้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาพบมีพนักงานรักษารถ พนักงานห้ามล้อเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ปฏิบัติหน้าที่บนขบวนรถขาดถึง 36 คน ทำให้ขณะนี้ฝ่ายบริหารกำลังพิจารณาแก้ไขปัญหาขาดพนักงานโดยการยกเลิกเดินขบวนรถที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลายเส้นทาง หรือจะนำรถโดยสารมาปรับวิ่งให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวิ่งเฉพาะวันจันทร์-วันศุกร์เท่านั้น

“พนักงานรักษารถปกติทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยและตรวจตั๋ว ขบวนหนึ่งจะมีปฏิบัติหน้าที่ 3 คน ตอนนี้เหลือเพียง 1 คน ส่วนพนักงานประจำสถานีขาด ปกติจะต้องมีผู้ปฏิบัติงานตามเวรแทนวันหยุด แต่ปัจจุบัน เช่น แขวงธนบุรี ทั้งแขวงเหลือพนักงานที่ทำหน้าที่แทนแค่ 2 คน พนักงานป่วยก็ไม่สามารถลางานได้ เมื่อสภาพร่างกายไม่มีความพร้อม แต่ต้องมาทำหน้าที่ดูแลผู้โดยสารจำนวนมาก เรื่องนี้คนรถไฟฯ ทราบดี และเกรงว่าปัญหาเหล่านี้เมื่อสะสมจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา ทั้งด้านความปลอดภัย และคุณภาพบริการ ปัญหารถจักรรถโดยสารที่มีไม่เพียงพอ ชำรุดบ่อย ขาดคนซ่อมบำรุง สภาพทาง โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังมาถึง มีการเดินทางของผู้โดยสารจำนวนมาก และต้องเพิ่มขบวนรถขึ้นอีก ทุกคนยังตั้งความหวังที่จะมีการปลดล็อคมติ ครม.เก่าโดยเร็ว เพราะงานขณะนี้มันเกินกำลังของพนักงาน รฟท.ไปมาก” พนักงานรายหนึ่ง กล่าว

นอกจากนี้ ปัญหาดังกล่าวยังครอบคลุมการผลิตบุคลากร ทั้งที่จะนำมาปฏิบัติงานในการเดินรถไฟปัจจุบัน  และรองรับงานระบบรางที่ รฟท.เป็นผู้ลงทุน และอาจต้องดูแลการเดินรถในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น รถไฟทางคู่อีกหลายเส้นทางที่จะทำให้รถไฟต้องจัดหาขบวนรถเพิ่ม  โครงรถไฟความเร็วสูง โครงรถไฟฟ้าสายสีแดง ขณะที่นักเรียนจากโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ที่จบการศึกษาปี 2560 จำนวน 173 คน ซึ่งกระจายกำลังทำงานให้ รฟท.ไปแล้ว แต่อยู่ในสถานะการจ้างแค่ลูกจ้างชั่วคราว จากปัญหาปลดล็อคมติ ครม.ดังกล่าว ส่วนปี 2561 นักเรียนจากโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟที่กำลังจะจบการศึกษาเดือนเมษายนนี้  136 คน และกำลังศึกษา 186 คน ซึ่งนักเรียนเหล่านี้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงในอนาคตว่าเมื่อจบมาจะได้งานทำหรือไม่ และตามปกติเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการเปิดรับสมัครนักเรียนวิศวกรรมรถไฟ เพื่อเข้ารับการศึกษาเกี่ยวกับระบบราง เป็นระยะเวลา 2 ปี แต่ไม่สามารถเปิดรับได้ และหากจะเปิดรับ รฟท.ก็ไม่สามารถยืนยันที่จะรับนักเรียนที่จบออกมาเข้าเป็นพนักงานได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นโรงเรียนเฉพาะทางทำให้นักเรียนขาดความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอนาคตของตนเองในขณะนี้


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงปัญหาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขาดแคลนพนักงาน ว่า จะมีการเรียกผู้บริหาร รฟท.เข้ามาพูดคุย โดยนโยบายเบื้องต้นเทศกาลสงกรานต์นี้จะต้องมีพนักงานปฏิบัติงานเพียงพอ ไม่กระทบการเดินรถหรือเพิ่มขบวนรถให้บริการ ส่วนการนำมติ ครม.ใหม่เพื่อปลดล็อคมติ ครม.เดิมนั้น ขณะนี้ รฟท.ได้ส่งเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคมแล้ว โดยมอบหมายให้นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม พิจารณารายละเอียดก่อนกระทรวงนำเสนอ ครม.ต่อไป โดยยืนยันจะดำเนินการโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” นักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความตำรวจพลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี ดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกทำร้ายและได้รับบาดเจ็บ […]

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]