“ซิโนไทย” ยืนยัน ไม่เคยใช้อิทธิพลขอขยายเวลาสร้างรัฐสภาใหม่

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ 31 มี.ค.- อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกต บ.ซิโนไทยฯใช้อิทธิพลขยายเวลาก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ขณะที่บ.ซิโนไทยฯ ยืนยัน สามารถดำเนินการได้ทันตามสัญญา หากสภาฯคืนพื้นที่ตามกำหนด ชี้ ไม่เคยใช้อิทธิพลขอขยายเวลา ย้ำไม่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งระบบไอที


คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และเครือข่ายตรวจสอบภาคประชาชน จัดเวทีประชาชนตรวจสอบคอร์รัปชั่น ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หัวข้อ ตรวจสอบปัญหาการทุจริตประพฤติชอบ กรณีไอที-รัฐสภาแห่งใหม่  โดยมีนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะบุตรชายของผู้บริหารบริษัท ซิโนไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ร่วมการเสวนา

โดยนายวัชระ เริ่มเปิดประเด็นเรื่องการขยายเวลาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ว่า มีการขยายเวลาการก่อสร้างออกไป 1,482 วัน จากเดิมในสัญญากำหนดไว้เพียง 900 วัน รวมต้องใช้เวลาการก่อสร้างถึง 2,382 วัน  ซึ่งถือว่า บริษัทผู้รับเหมาเป็นบริษัทที่ได้รับความเมตตาจากรัฐมากที่สุด ที่ให้ขยายเวลาการก่อสร้างไปถึง 3 ปี จึงตั้งข้อสังเกตว่า การขยายเวลาครั้งแรกที่นายจเร พันธุ์เปรื่อง อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อนุมัติการขยายเวลาไม่ครบตามจำนวนที่บริษัท ซิโนไทยฯ ขอมา ทำให้นายจเรถูกคำสั่ง ม.44 ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่า การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนหรือไม่ พร้อมตั้งคำถามว่า ในเมื่อบริษัทรับเหมาก่อสร้างทราบอยู่แล้วว่า ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะส่งมอบพื้นที่แต่ละส่วนไม่พร้อมกัน เหตุใดจึงไม่มีการวางแผนเพื่อรองรับเหตุการณ์เหล่านี้ และตั้งคำถามอีกว่า ทางบริษัทได้รับมอบพื้นที่ครบทั้งหมดในวันใด และแต่งเติม ห้องโถงชั้นล่างของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ออกแบบให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานที่รับลมจากธรรมชาติ แต่มีการปรับแก้ไขแบบให้มีเครื่องปรับอากาศ ขณะเดียวกันเตรียมยื่นหนังสือเรียกร้องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เพราะมีความมั่นใจว่าการก่อสร้างรัฐสภาใหม่มีความผิดปกติ โดยหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะไปยื่นร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบด้วย ซึ่งตนมีข้อมูลในเชิงลึกพอสมควร และจะนำเรื่องการทุจริตก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ไปส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบด้วย


ขณะที่นายอนุทิน กล่าวว่า พ่อของตนได้ก่อตั้งบริษัท ซิโนไทยฯมานาน 50 กว่าปีแล้ว และการที่ต้องมาชี้แจงในวันนี้ เพราะมีการพาดพิงว่า บริษัทซิโนไทยฯ ใช้อิทธิพลในการรับว่าจ้างและการต่อสัญญามาด้วย โดยยืนยันว่า ทุกครั้งที่ขยายสัญญา เพราะมีเหตุจำเป็นที่เกิดจากความผิดพลาดในการส่งมอบพื้นที่ ไม่ใช่ความผิดของบริษัทซิโนไทยฯ และไม่เคยใช้อิทธิพลในการต่อสัญญา พร้อมยืนยันว่า การร่วมเสวนาในวันนี้ (31 มี.ค.) ไม่ได้มาในเรื่องของการเมืองใดๆทั้งสิ้น 

สำหรับการขยายเวลาการก่อสร้างตามที่นายวัชระตั้งข้อสังเกตนั้น นายอนุทิน ชี้แจงว่า สิ่งที่นายวัชระกล่าวหา ไม่มีความจริงทั้งสิ้น เป็นเพียงการคาดเดา อีกทั้งในช่วงการอนุมัติงบประมาณการก่อสร้าง เป็นช่วงที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่นายชัย ชิดชอบ แต่อย่างใด ส่วนกำหนดเวลาการก่อสร้าง 900 วัน ตามสัญญานั้น ทางบริษัทซิโนไทยฯไม่ได้เป็นผู้กำหนด และหากการส่งมอบพื้นที่เป็นไปตามกำหนด ทางบริษัทก็ต้องก่อสร้างให้เสร็จภายในเวลา 900 วันตามสัญญา ทั้งนี้ ผู้รับจ้างไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ ไม่ใช่เจ้าของดิน ผู้รับจ้างเป็นผู้รอรับคำสั่ง บริษัทซิโนไทยฯไม่ได้รู้ล่วงหน้าได้ว่าจะส่งมอบพื้นที่ไม่ทันตามกำหนด รู้เพียงว่า หากส่งมอบพื้นที่เสร็จ บริษัทจะใช้เวลาก่อสร้าง 900 วัน แต่เมื่อการส่งมอบพื้นที่แล้วเสร็จเมื่อปี 2559 การก่อสร้างก็จะเสร็จในปี 2562 ตามสัญญา 900 วัน 

“ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการของบประมาณเพิ่มเติม เพื่อติดตั้งระบบไอทีของรัฐสภาแห่งใหม่ นั้น งานระบบไอที ไม่ได้อยู่ในขอบเขตหรือเนื้องานที่บริษัทซิโนไทยฯต้องรับผิดชอบ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆในการออกแบบ และเรื่องระบบงานไอทีก็ไม่เกี่ยวข้องกับการขอขยายเวลา ดังนั้น ที่กล่าวหาว่า การขยายเวลา ทำให้รัฐเกิดความเสียหายนั้น ขอชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้ทำผิดอะไร และไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายใดๆ จึงขออย่ากล่าวหาว่า บริษัททำให้รัฐเสียหาย” นายอนุทิน กล่าว


ด้านนายวิลาศ ระบุ ไม่เคยกล่าวอ้างบริษัทเอกชน เพราะเข้าใจการทำงานของบริษัทเอกชน แต่ส่วนตัวไม่เคยเห็นโครงการใดที่เละเท่าโครงการการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยเฉพาะการขยายเวลาการก่อสร้างที่สังคมยังไม่ทราบว่า เป็นเพราะการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตเรื่อง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจ้าง บริษัทเมอร์ลิน โซลูชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อออกแบบระบบไอทีด้วยวิธีพิเศษ ไม่ได้จัดจ้างด้วยวิธีการประกวดราคา โดยอ้างว่า มีเวลาจำกัด ทั้งที่ส่วนตัวเห็นว่า ก่อนหน้านี้มีเวลามานานแล้ว เหตุใดจึงมาจ้างบริษัทดังกล่าวด้วยวิธีพิเศษในเวลานี้ และจากการชี้แจงของทีมสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถึงงบประมาณการติดตั้งระบบไอทีที่เพิ่มขึ้นมาเมื่อวันพฤหัสบดี (29 มี.ค.)ที่ผ่านมา ก็ยังไม่ชัดเจนเรื่องเหตุผล ส่วนที่ตนเห็นว่า โครงการดังกล่าวมีการทุจริตเกิดขึ้น เนื่องจากข้าราชการที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการ มักจะมีความก้าวหน้ามากเป็นพิเศษ 

จากนั้น นายโชติจุฑา อาจสอน กรรมการบริหารที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ชี้แจงเรื่องการขยายระยะเวลาการก่อสร้าง 3 ครั้งว่า ที่ผ่านมาได้มีการชี้แจงออกมาเป็นระยะ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยอยู่แล้ว ทั้งนี้ การทำงานจะต้องมีการแก้ปัญหาและอุปสรรคมาตลอด ครั้งแรกที่มีการขอขยายเวลา เนื่องจากพบปัญหาการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าและปัญหาการทิ้งดิน ซึ่งเป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่จะส่งมอบพื้นที่และจัดหาสถานที่ทิ้งดินล่าช้า ส่วนการขยายเวลาครั้งที่สอง ก็มีปัญหาต่อเนื่องจากการขุดดินเพื่อสร้างห้องใต้ดิน เพราะหากนำดินออกไปจากพื้นที่ไม่ได้ ก็ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างชั้นใต้ดินได้ ซึ่งใช้เวลานานมาก และผู้บริหารของสภาฯคนเก่าไม่กล้าตัดสินใจในการขายดินส่วนที่ขุดออกมา ขณะเดียวกัน เวลานั้นก็ยังมีพื้นที่บางส่วนที่ยังส่งมอบไม่เสร็จ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่ต้องใช้ในการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนโครงเหล็กหลังคาห้องประชุม ส.ส.และห้องประชุม ส.ว.ด้วยการสไลด์ชิ้นส่วนผ่านพื้นที่ดังกล่าวเข้ามาในส่วนการก่อสร้างอาคาร พร้อมย้ำว่า การขยายเวลาทั้ง 3 ครั้งนั้น มีเหตุผลที่ชัดเจน สำหรับงบประมาณในส่วนของระบบไอทีนั้น ตั้งแต่ปี 2552 ได้ตั้งกรอบวงเงินงบประมาณในส่วนนี้ไว้ 3,200 ล้านบาท และเมื่อประกวดการออกแบบจนได้บริษัทออกแบบมาทำงาน กลับพบว่า การก่อสร้างทั้งหมดจะต้องใช้พื้นที่และงบประมาณเพิ่มขึ้น จึงได้แยกงานไอที สาธารณูปโภคและงานประกอบอาคารออกจากสัญญา เนื่องจากงบประมาณที่วางไว้ไม่พอ อีกทั้ง งบประมาณดังกล่าวถูกนำไปใช้ในส่วนอื่น ต่อมาพบว่า การออกแบบระบบไอทีของบริษัทเดิมยังไม่ทันสมัยเพียงพอ จึงต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อมาศึกษาและใช้เวลาค่อนข้างนานในการศึกษา จากนั้นได้จัดจ้างบริษัทใหม่ที่ไม่ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี จนได้บริษัท เมอร์ลินฯเข้ามาดำเนินการออกแบบระบบไอที ซึ่งบริษัท เมอร์ลินฯ ได้ออกแบบระบบไอทีที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมากขึ้นกว่าวงเงินเดิม จึงเป็นที่มาของการขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจากคณะรัฐมนตรี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวทีการเสวนาวันนี้ (31 มี.ค.) ได้มีผู้ร่วมสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย ,นายพีระ นาควิมล ผู้อำนวยการการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริษัทชิโน-ไทยฯ และนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นต้น  .- สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]

โซเชียลแห่ติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

6 มิ.ย. – ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด มีการส่งกำลังใจให้ผู้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ด้วยแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ที่กำลังร้อนแรงในโลกโซเซียลขณะนี้ หลัง “กองทัพบก Royal Thai Army” เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานปกป้องประเทศชาติ บทเพลงต่างๆ ที่สื่อถึงความรักประเทศไทย ก็ถูกนำมาโพสต์ลงโซเซียลในช่วงนี้เช่นกัน หรือจะเป็นกระแสหกเดือนหก ที่นักช้อปออนไลน์รู้จักกันดี ทางกองทัพก็สามารถนำมาโยง ให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังพล อย่างกองทัพอากาศ โพสต์ภาพ ทหารติดระเบิดบนเครื่องบินรบ นามเรียกขาน “Lightning” พร้อมบรรยายด้วยข้อความ สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย แสดงถึงการพร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย เช่นเดียวกับ เพจกองทัพบก โพสต์ภาพทหารโดดร่ม พร้อมข้อความ Army ส่งด่วน และ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ไม่เพียงแต่เหล่าทัพที่จุดกระแสรักชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประกาศจุดยืน ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ พร้อมบังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการ พิทักษ์พื้นที่ชายแดน […]

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]