กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – คปภ.เร่งบริษัทประกันภัยจ่ายสินไหมกรณีไฟไหม้รถบัสขนแรงงานเมียนมา เตรียมจับมือกระทรวงแรงงานผลักดันนำระบบประกันภัยเข้าไปบริหารความเสี่ยงให้กับผู้ใช้แรงงานต่างด้าว
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(คปภ.) เปิดเผยถึงกรณีไฟไหม้รถบัสขนแรงงานเมียนมาร์ เบื้องต้น มีผู้เสียชีวิต 20 ราย
และได้รับบาดเจ็บสาหัส 27 คน จากการติดตามและประสานงานอย่างใกล้ชิดของ
คปภ.ส่วนกลาง และ คปภ.จังหวัดตาก พบว่า รถโดยสารดังกล่าวทำประกันภัยรถภาคบังคับ
(พ.ร.บ.) กับบริษัท เคเอสเคประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ BKK-A-COI-17-094124 เริ่มคุ้มครองเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 กรกฎาคม 2561
สำหรับการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามกฎหมายกำหนดนี้ได้ให้ความคุ้มครองต่อชีวิต
ร่างกาย หรืออนามัย ของผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ในส่วนของผู้โดยสาร
กรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน
และกรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวรจะได้รับค่าสินไหมทดแทน 300,000 บาทต่อคน และกรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-300,000 บาท
กรณีเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยวันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน ทั้งนี้ คปภ.ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตครั้งนี้และจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยและประสานงานด้านค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่
“ผู้ประกอบการที่มีแรงงานเป็นชาวต่างด้าวและขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ขอให้จัดทำประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับผู้ใช้แรงแรงต่างด้าว
เพื่อแสดงถึงความห่วงใยและความปรารถนาดี
และเป็นสวัสดิการที่ให้ความคุ้มครองทั้งกรณีเสียชีวิต/สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร
จากอุบัติเหตุ กรณีถูกลอบฆาตกรรมทำร้าย
และยังมีค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุให้กับแรงงานอีกด้วย ซึ่ง
คปภ.จะหารือกับกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำเอ็มโอยู และผลักดันให้มีการนำระบบประกันภัยเข้าไปบริหารความเสี่ยงภัย
และเพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตด้านประกันภัยอย่างครบวงจรให้กับผู้ใช้แรงงานต่างด้าวอีกด้วย
.-สำนักข่าวไทย