กนง.เสียงแตก 6 ต่อ 1 คงดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50

กรุงเทพ ฯ 28 มี.ค.- กนง.เสียงแตกเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี คงดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 ชี้ยังจำเป็นใช้ดอกเบี้ยต่ำหนุนเศรษฐกิจโต ปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 4.1


นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. กล่าวว่า ที่ประชุม กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี โดย 1 เสียงให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 1.50 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี  เนื่องจากกรรมการ 1 ท่าน เห็นว่าภาวะการเงินที่ผ่อนคลายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจประเมินความเสี่ยงในอนาคตต่ำกว่าที่ควร และเห็นว่าการลดระดับการผ่อนคลายนโยบายการเงินลงบ้างไม่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่กรรมการส่วนใหญ่ เห็นว่านโยบายการเงินควรผ่อนคลายต่อไป เพื่อช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเอื้อให้เงินเฟ้อกลับสู่กรอบเป้าหมายได้แม้อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ ที่ประชุม กนง.ยังปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 4.1 ดีกว่าที่ประเมินไว้เดิมที่คาดว่าโตร้อยละ 3.9 โดยเฉพาะการส่งออกขยายตัวร้อยละ 7 จากเดิมคาดโตร้อยละ 4 และการท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่องคาดมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 37.6 ล้านคน ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี 2562 คาดว่าขยายตัวร้อยละ 4.1 


ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นช้ากว่าที่คาด อยู่ที่ร้อยละ 1  เนื่องจากผลกระทบจากราคาอาหารสด โดยเฉพาะเนื้อหมู และ ผักสด ที่ลดลงมากกว่าคาด โดยอาหารสดและ อาหารสำเร็จรูป มีสัดส่วนในการคำนวณเงินเฟ้อประมาณร้อยละ 30 อย่างไรก็ตาม กนง.ยังเชื่อว่าเงินเฟ้อจะเข้าสู่กรอบล่างประมาณร้อยละ 1 ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ 

“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่กระจายตัว กำลังซื้อแรงงานผู้มีรายได้ต่ำยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากผลตอบแทนจากการจ้างรายวัน และมีการโยกย้ายแรงงานไปภาคบริการมีอัตราค่าจ้างงานต่ำกว่าภาคผลิต หลังผู้ประกอบการหันมาใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคนในภาคการผลิต” นายจาตุรงค์ กล่าว

นายจาตุรงค์ กล่าวว่า ยังจับตาปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้าโลก ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งผลกระทบจากการขึ้นภาษีเหล็ก และ อะลูมิเนียม จากสหรัฐ และ มาตรการตอบโต้จากคู่ค้าของสหรัฐ ที่อาจส่งผลลบต่อการค้าโลก และการส่งออกไทย – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น