ทำเนียบรัฐบาล 27 มี.ค.-นายกฯ เผยให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาเรื่องส่งร่าง พ.ร.ป.ส.ส.ให้ศาลรธน.ตีความหรือไม่ ยืนยันไม่มีทฤษฎีสมคบคิดยืดเลือกตั้ง ทุกอย่างยังตามโรดแมป ระบุยังไม่ตัดสินใจเป็นนายกฯคนนอก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ว่า ขณะนี้รัฐบาลให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวว่าควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ เพราะยังมีเวลาพิจารณาก่อนถึงขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 12 เมษายนนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามโรดแมป หากพิจารณาแล้วจำเป็นต้องยื่นให้ศาลตีความ ก็ไม่น่าจะเกิดความล่าช้ามากเกินไป และหากศาลรับพิจารณาร่างกฎหมายลูกซึ่งถือว่าเป็นประเด็นสำคัญ ขอให้ช่วยรัฐบาลดูแลให้อยู่ในกรอบของโรดแมป ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะมีความเห็นต่างแต่ทุกฝ่ายมีเจตนาดี รัฐบาลหวังให้ทุกอย่างรวดเร็วตามที่สังคมต้องการ แต่หากเรื่องใดที่เป็นปัญหาจึงยังไม่ต้องการนำขึ้นทูลเกล้าฯ
“ไม่มีเรื่องทฤษฎีสมคบคิดตามที่สื่อมวลชนตั้งคำถาม เพราะเป็นเรื่องที่สื่อคิดขึ้นเอง รัฐบาลมีหน้าที่ต้องเดินหน้าตามกรอบเวลาที่กำหนด เพราะผมก็ไม่ต้องการจะยืดเวลา เมื่อเลือกตั้งแล้วจะได้คนดีเข้ามาหรือไม่ไม่ใช่เรื่องของผม แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเลือกคน สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีปัญหาอยู่สองจุดคือการช่วยเหลือคนพิการกาบัตรเลือกตั้ง ซึ่งในข้อเท็จจริงคงมีจำนวนไม่มากนัก แต่ถือเป็นประเด็นที่ต้องหารือกัน เพื่อให้ทราบแนวทางดำเนินการต่อไป อีกส่วนคือหากไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง จะต้องถูกตัดสิทธิ์ไม่ได้เป็นข้าราชการการเมือง เป็นสิ่งที่ฟ้องร้องได้ในภายหลัง ทุกอย่างมีหลายเหตุผล อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะต้องให้ได้ข้อสรุป ไม่ให้โยนความรับผิดชอบไปที่อื่น
“ยืนยันว่าการพิจารณาร่างกฎหมายของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) และการพิจารณากฎหมายของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอง ซึ่งมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่มีความเห็นแตกต่าง ไม่ใช่คล้อยตามไปทั้งหมด แต่หน้าที่ของรัฐบาลคือต้องทำให้มีการเลือกตั้งตามที่กำหนด รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้การเลือกตั้งในอนาคตเป็นโมฆะ แต่ที่สุดแล้วผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไรหรือป็นโมฆะหรือไม่อยู่ที่ทุกคน เพราะรัฐบาลหรืผมไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะยืนยันได้ว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะไม่มีปัญหา” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เพราะทราบว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มเดิม และมีวัตถุประสงค์อื่น รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากภายนอก โดยเฉพาะแกนนำที่จะต้องถูกตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งจะถือว่าละเมิดกฎหมายและมีผลเรื่องของพรรคการเมืองในอนาคต
“ยืนยันรัฐบาลไม่ปิดกั้น แต่ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าวันนี้บ้านเมืองมีความต้องการเรื่องใด ถ้าอยากเลือกตั้งก็มีการกำหนดเรื่องระยะเวลาออกมาแล้ว การออกมาเร่งรัด อาจมีจุดประสงค์อื่นหรือไม่ แต่ที่สำคัญคือขณะนี้มีประชาชนส่วนอื่นได้รับความเดือดร้อนและร้องทุกข์เข้ามา จึงไม่อยากให้เยาวชนต้องมีคดีความและกลับมาโทษรัฐบาลในภายหลัง การประท้วงย่อมมีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงอาจบานปลายเป็นปัญหาเช่นเดิม ขอให้เลิกเคลื่อนไหว วันนี้แม้จะมีคำสั่งคสช.ยังมีเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาก็เริ่มต้นจากสิ่งเหล่านี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก ว่า ยังไม่พิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งการจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ตนเองตอบรับได้เพียงพรรคเดียวใช่หรือไม่ แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบแนวทางของแต่ละพรรค ซึ่งต้องค่อย ๆพิจารณาเรื่องนโยบายพรรค
“พรรคการเมืองน่าจะเสนอชื่อคนอื่นก่อนเสนอชื่อผม อย่าเอาผมไปเป็นตัวตั้ง เพราะผมไม่ใช่คนเก่งหรือดีเลิศเพียงคนเดียว วันนี้สิ่งที่ผมต้องทำคือทำงานที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะโครงการต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่การทำงานเพื่อหวังผลทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย
