กาฬสินธุ์, นครราชสีมา 25 มี.ค.-ความคืบหน้าอุบัติเหตุรถทัวร์วิ่งลงเขาวังน้ำเขียวพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ ล่าสุด ตำรวจภูธรอุดมทรัพย์จ่อแจ้งข้อหาผู้ประกอบการรถทัวร์ หลังไม่ตรวจสภาพรถตามกำหนดและปล่อยให้พนักงานขับรถเสพสิ่งเสพติด ขณะที่เย็นที่ผ่านมา มีพิธีฌาปนกิจเหยื่อรถทัวร์มรณะแล้วรวม 14 ศพ ที่ จ.กาฬสินธุ์
ที่วัดดงกระยอมอุดมคุณ อ.เมืองกาฬสินธุ์ บรรยากาศพิธีฌาปนกิจหมู่เหยื่อผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย จากเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำขณะวิ่งลงเขาที่ อ.วังนำเขียว จ.นครราชสีมา เป็นไปอย่างโศกเศร้า มีครอบครัวผู้เสียชีวิต ตลอดจนประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย โดยที่วัดแห่งนี้ มีการจัดพิธีตามประเพณีเผาศพโบราณ ที่ชาวบ้านภาคอีสานเรียกว่า เผาด้วยกองฟอน หรือเชิงตะกอน
เช่นเดียวกับที่วัดป่าพุทธมงคลบ้านหลุบ จ.กาฬสินธุ์ มีพิธีฌาปนกิจ ผู้เสียชีวิต อีก 9 ราย ด้วยวิธีเผาด้วยกองฟอนเช่นกัน ทำให้วันนี้เป็นพิธีฌาปนกิจศพ ทั้งสิ้น 14 รายทั้งหมด ล้วนเป็นญาติพี่น้องกันทั้งหมด อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ญาติจึงต้องการให้ผู้เสียชีวิตไปสู่สุขติพร้อมๆ กัน
ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ญาตินำศพฌาปนกิจไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่อีก 2 ราย จะทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 26 มีนาคมนี้
ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้ คปภ.เร่งติดตามและนำเงินมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 18 ราย เบื้องต้นจะได้รับเงินประกันภัยรายละ 650,000 บาท พร้อมให้ยุติธรรมจังหวัด สำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ เข้ามาพูดคุยให้ข้อมูลกับสิทธิประโยชน์ที่พึงจะได้รับเบื้องต้น รวมถึงการให้สาธารณสุขจังหวัดติดตามสภาพจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บด้วย นอกจากนี้ เตรียมทำบุญใหญ่ให้ 2 หมู่บ้าน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต สร้างขวัญกำลังใจให้กลับมาโดยเร็ว
ส่วนความคืบหน้าของคดี ตำรวจ สภ.อุดมทรัพย์ ควบคุมตัวนายกฤษณะ จุฑาชื่น คนขับรถส่งฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมาไปแล้ว ขณะที่การแจ้งข้อหาผู้ประกอบการรถโดยสารบริษัท กันเองทัวร์ กาฬสินธุ์ นั้น ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน 1 ชุด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อสอบพยาน ผู้บาดเจ็บ รวมทั้งประสานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ตรวจพิสูจน์รถยนต์คันเกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อที่จะแจ้งข้อหาผู้ประกอบการ โดยเฉพาะข้อหาไม่ตรวจสภาพรถตามกำหนด และปล่อยให้พนักงานขับรถเสพสิ่งเสพติด คาดจะเร่งให้สรุปสำนวนคดีให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์.-สำนักข่าวไทย
ชมผ่านยูทูบ