BIG STORY : เร่งหาสาเหตุรถทัวร์มรณะ 18 ศพ-คุมตัวคนขับได้แล้ว

นครราชสีมา 22 มี.ค.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุรถทัวร์นำเที่ยวพุ่งข้ามเลนชนต้นไม้และแผงค้าจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อช่วงค่ำวานนี้ บริเวณริมถนนสายราชสีมา-กบินทร์บุรี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ขณะที่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนขับรถทัวร์ที่หลบหนีได้แล้ว


อุบัติเหตุรถทัวร์นำเที่ยว 2 ชั้น ริมถนนสายราชสีมา-กบินทร์บุรี พื้นที่ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อค่ำวานนี้ สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตถึง 18 ศพ บาดเจ็บกว่า 30 คน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงสีและเครือญาติจาก จ.กาฬสินธุ์ ระหว่างเดินทางกลับจากไปเที่ยวทะเลที่ จ.จันทบุรี รถทัวร์มรณะยังพุ่งชนแผงค้าของป่าของชาวบ้าน 5 แผง “ยายเกษ เรียนกิ่ง” เป็นหนึ่งในผู้ค้าที่รอดชีวิตอย่างหวุดหวิด ขณะนั่งล้อมวงรับประทานอาหารกับญาติ 4 คน โดยอยู่ห่างรถทัวร์ที่พุ่งเข้าใส่เพียงศอกเดียวเท่านั้น


หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทยอยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุตลอดทั้งวัน อาทิ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 เก็บลายพิมพ์นิ้วมือที่พวงมาลัยและหัวเกียร์รถทัวร์ เพื่อมัดตัวนายกฤษณะ จุฑาชื่น คนขับรถ ที่ล่าสุดตำรวจควบคุมตัวได้แล้วเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เบื้องต้นให้การว่า รถเบรกแตก ไม่สามารถควบคุมรถได้ หลังเกิดเหตุรู้สึกตกใจ จึงหลบหนี เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีบาดแผลตามร่างกาย จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลปักธงชัย โดยยังไม่ดำเนินคดี เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวน


ขณะที่ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ก็ลงพื้นที่เก็บข้อมูลหาสาเหตุเชิงลึกของอุบัติเหตุ เบื้องต้นพบว่าสภาพรถค่อนข้างเก่า โครงสร้างตัวรถขึ้นสนิม น่าจะใช้งานมานานแล้ว ส่วนสภาพถนนเป็นทางโค้งลงเขาลาดชัน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของอุบัติเหตุในครั้งนี้

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก เป็นอีกหน่วยงานที่มาตรวจสอบวิเคราะห์หาสาเหตุเช่นกัน โดยตั้งโจทย์ว่า หากระบบเบรกมีปัญหาตามคำให้การของผู้บาดเจ็บ ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนว่า เกิดจากอุปกรณ์ล้วนๆ หรือตัวคนที่ไม่ชำนาญทางจนทำให้ระบบเบรกมีปัญหา

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา รถบัส รถทัวร์ 2 ชั้น จดทะเบียนใหม่กับกรมการขนส่งทางบก ต้องมีความสูงไม่เกิน 4 เมตร ซึ่งจะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น แต่รถทัวร์นำเที่ยวคันเกิดเหตุเป็นรถรุ่นเก่าที่ยังไม่ได้อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยใหม่.-สำนักข่าวไทย

ชมผ่านยูทูบ



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน