วธ.22 มี.ค.-บอร์ดมรดกภูมิปัญญาฯ ประกาศขึ้นทะเบียน 18 รายการ 6 สาขา “ปอยส่างลอง-ถือศีลกินผัก-เล่นสะบ้า-ขนมฝรั่งกุฎีจีน-แข่งเรือยาวขึ้นโขน-ชิงธง” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี 2561
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผย ว่าในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 2/2561 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี 2561 จำนวน 18 รายการ เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญของชาติและเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนให้เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตนรวมทั้งเป็นการปกป้องคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นและของชาตินำไปสู่การสร้างความรู้ความเข้าใจเห็นคุณค่ายอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรมก่อให้เกิดการส่งเสริมรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติทั้งในระดับประเทศและระดับสากล
นายวีระ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ รับทราบผลการดำเนินของกรมส่งเสริมวัฒนธรรมที่ได้จัดการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเพื่อเสนอขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปีพุทธศักราช 2561 เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จำนวน 18 รายการ ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา จากทั้งหมด 44 รายการ
ในการนี้ ที่ประชุมบอร์ดได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบรายการมรดกฯ จำนวน 18 รายการ ดังกล่าว เพื่อประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ.2561 ใน 6 สาขา ประกอบด้วย
1.วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา จำนวน 1 รายการ ได้แก่ นิทานพื้นบ้านท้าวแสนปม จ.กำแพงเพชร
2.ศิลปะการแสดง จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ลิเก จ.พิจิตร-นครสวรรค์ , สะไน จ.ศรีษะเกษ , วายังกูเละ จ.ยะลา
3.แนวปฏิบัติทางสังคม ประเพณี พิธีกรรม และงานเทศกาล จำนวน 5 รายการ ได้แก่ พิธีถวายข้าวพีชภาคฯ และบุญเสียค่าหัว ข้าโอกาสพระธาตุพนม จ.นครพนม,ประเพณีแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ,ปักธงเมืองนครไทย จ.พิษณุโลก,ประเพณีปอยส่างลอง(บวชลูกแก้วหรือบรรพชาสามเณร) จ.แม่ฮ่องสอน,ประเพณีถือศีลกินผัก จ.ภูเก็ต
4.ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ขนมฝรั่งกุฎีจีน กรุงเทพฯ, ดินสอพองลพบุรี จ.ลพบุรี ,ตำรายาหลวงปู่ศุข จ.ชัยนาท
5.งานช่างฝีมือดั้งเดิม จำนวน 3 รายการ ได้แก่ เรือนโคราช จ.นครราชสีมา ,การทำกลอง- เอกราช จ.อ่างทอง ,เรือก่าบาง จ.พังงา
6. การเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้านและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว จำนวน 3 รายการ ได้แก่ วัวเทียมเกวียน จ.เพชรบุรี,การเล่นสะบ้า จ.สมุทรปราการ-นนทบุรี-กาญจนบุรี ,การแข่งเรือยาว ขึ้นโขนชิงธง ลุ่มน้ำหลังสวน จ.ชุมพร
สำหรับการขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาฯ ในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินงานครั้งแรกหลังจากที่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ.2559 ซึ่งประกอบด้วยการดำเนินการ ใน 5 ขั้นตอน คือ 1.กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้รับรายการที่ขอขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาฯ จาก 77 จังหวัด รวม 193 รายการ
2.คณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจาณาให้ความเห็นทางวิชาการโดยผ่านเกณฑ์การขึ้นบัญชี 18 รายการ
3.คณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาฯ พิจารณาและให้ความเห็นชอบการขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาฯ
4.รายการมรดกฯ 18 รายการที่ผ่านความเห็นชอบนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจะดำเนินการประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในราชกิจจานุเบกษา (มาตรา 22) และกำหนดจะจัดพิธีประกาศพร้อมนิทรรศการ การสาธิตรายการมรดกภูมิปัญญาฯ ในช่วงเดือนกันยายน 2561 .-สำนักข่าวไทย