กรุงเทพฯ 20 มี.ค.- สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าถือว่าหลายฝ่ายยังเฝ้าระวังเข้ม โดยวันนี้มีการเสวนาวิชาการเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งแพทย์เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาต้องอาศัยความตระหนักของคน ว่าหากติดเชื้อจะต้องรีบไปรับวัคซีค
ในการเสวนาวิชาการ “ตอบโจทย์สังคม โรคพิษสุนัขบ้า” นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในไทย เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อ 2-3 ปี โดยมีตัวเลขผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 คน แต่สถานการณ์จบลงแบบละมุนละม่อม แต่มาปี 2561 พบผู้เสียชีวิตมากขึ้น และถูกเบี่ยงประเด็นเป็นการเก็บภาษีเลี้ยงสุนัขและแมว ทั้งที่ปัญหาการเสียชีวิต มาจากการเข้ารับฉีดวัคซีนป้องกันหลังมีความเสี่ยงได้รับเชื้อ และจากการศึกษาเชื้อพิษสุนัขบ้า พบว่าสามารถอยู่ในร่างกายคนนานถึง 8 ปี โดยการแสดงอาการไม่ได้จำกัดแค่การกลัวน้ำ หรือ อาการทางประสาท แต่ยังรวมถึงอาการอ่อนแรง นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อติดเชื้อพิษสุนัขบ้า ไวรัสสามารถอยู่ได้นานถึง 6 สัปดาห์ พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงการฉีดวัคซีคป้องกันโรคมาเป็นเกณฑ์เดียวกับองค์การอนามัยโลก โดยใช้เซรุ่ม 3 เข็ม ฉีดภายใน 7 วันแรก เพื่่อกดภูมิเชื้อพิษสุนัขบ้า จากนั้นค่อยฉีดวัคซีค เพราะหากฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียว กว่าจะกระตุ้นภูมิต้องรอนาน 14-15 วัน
ด้านนายสัตวแพทย์พรพิทักษ์ พันธ์หล้า หัวหน้ากลุ่มโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัญหาการเสียชีวิตในคนมาจากการละเลยการฉีดวัคซีน และส่วนใหญ่คนยังไม่ทราบว่าเมื่อติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจะเสียชีวิต ดังนั้น หากถูกกัด ต้องล้างแผล ใส่ยา กักสุนัข และพบแพทย์
ด้านการควบคุมโรค นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ แถลงว่า ขณะนี้ได้ร่วมกับ กทม. และท้องถิ่น ตั้งจุดฉีดวัคซีคป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งฉีดให้สุนัขและแมวไป 2,080,000 ตัว และคาดว่าในเดือนพฤษภาคม จะฉีดวัคซีคได้ร้อยละ 80 ของสุนัขและแมวทั่วประเทศ ทั้งนี้พบว่าสัตว์ที่ป่วยเป็นพิษสุนัขบ้าจนเกิดอาการมาจากร้อยละ 80 ไม่ได้รับวัคซีค ทั้งนี้ ในอนาคตอาจเป็นไปได้ที่ไทยจะผลิตวัคซีคเองแต่ปัจจุบันยังต้องนำเข้าจากสหรัฐและยุโรป ปีละ 8-9 แสนโดส ราคาโดสละ 15-16 บาท มีอายุการใช้งาน 1 ปีครึ่ง หากผลิตเองจะต้องได้ราคาที่ถูกกว่านี้.-สำนักข่าวไทย
