กกต.ตั้งคณะทำงานตรวจสอบใส่ร้ายผู้สมัครเลือกตั้งผ่านโซเชียลมีเดีย

กรุงเทพฯ 19 มี.ค.- บุญส่งเผย ตั้งคณะทำงานตรวจสอบการใส่ร้ายผู้สมัครเลือกตั้ง ผ่านทางโซเชียลมีเดีย แล้ว  ประสานปอท. กระทรวงดิจิทัลฯ เก็บข้อมูลต่อเนื่อง เพื่อทำให้การเลือกตั้งสุจริต 


นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ กกต.ได้หารือกันถึงแนวทางการตรวจสอบการใส่ร้ายในการเลือกตั้งผ่านทางโซเชียลมีเดีย  ซึ่งพรรคการเมืองต้องการให้ กกต.ทำ ว่า กกต.ได้ตั้งคณะทำงานไว้แล้ว  เพราะเห็นว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาในอนาคต  หากมีคนใช้โซเชียลมีเดียไปใส่ความผู้สมัครรับเลือกตั้งรายใดรายหนึ่ง  จนทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนดังกล่าวไม่ได้รับเลือกแล้วจะทำอย่างไร และหากผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ชนะการเลือกตั้งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายที่เกิดขึ้น จะถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบหรือไม่ ทาง กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งได้เลย  ดังนั้นจึงจะต้องช่วยกันคิดเพื่อให้ได้คนดีเข้ามา

ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กกต.จะพิจารณาในเรื่องการกระทำที่จะเป็นผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต   ซึ่งจะต้องนำไปสู่การดำเนินคดี  ในการหารือ กกต.ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า สำนักงาน กกต.จะต้องพิจารณาว่าเมื่อเกิดเหตุจะสามารถเข้าไปจับกุมต้นตอได้อย่างไร  ทางสำนักงาน กกต.จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้น โดยมีการประสานงานกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  เพื่อหาแนวทางว่ากรณีที่เกิดเหตุขึ้น  นอกจากเป็นความผิดเรื่องการนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์แล้ว การจะหยุดการกระทำจำเป็นต้องร้องต่อศาลหรือใช้อำนาจรัฐมนตรีในการสั่งปิดเพจในโซเชียลมีเดียหรือไม่


ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์  ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนงานสืบสวน กล่าวว่า ความผิดทางโซเชียล มี 3 กรณี คือ การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ การหมิ่นประมาท และการใส่ร้าย ซึ่งกกต.จะดูกรณีสุดท้ายเป็นหลัก เป็นการใส่ร้ายที่จะเป็นผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดว่า กกต.จะต้องตรวจสอบ เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งเท่านั้น  จึงทำให้กกต.สามารถตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งขณะนี้ก็มีการเก็บข้อมูลไปเรื่อย ๆ หากเกิดเหตุก็สามารถใช้ข้อมูลที่รวมรวมไว้มาพิจารณาได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น